คนโตเกียวผวาแห่ลงใต้หนีกัมมันตรังสี

ชาวกรุงโตเกียวเบียดเสียดขึ้นรถไฟมุ่งหน้าหนีกัมมันตรังสีลงใต้ หลายคนซื้อของกักตุนอยู่แต่ในบ้านหลายวัน


วันนี้ 16 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ชาวกรุงโตเกียว ที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ ต่างแออัดกันอยู่ในขบวนรถไฟ และรีบร้อนไปยังร้านค้า เพื่อหาซื้ออาหาร น้ำ หน้ากากปิดจมูกและของใช้จำเป็นฉุกเฉิน หลังเกิดความวิตกว่า ลมจะพัดสารกัมมันตรังสีจากโรงงานไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ ในจังหวัดฟูกูชิม่า ไปยังกรุงโตเกียว  หลายคนพาจับจ้องโทรทัศน์ ติดตามรายงวานข่าวสถานการณ์ที่เลวร้ายลงเรื่อย ๆ ในบริเวณโรงงานไฟฟ้า ที่อยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 250 กิโลเมตร  ซึ่งเกิดระเบิดถึง 4 ครั้ง และไฟไหม้อีก 1 ครั้ง รัฐบาล ระบุเมื่อช่วงเช้าว่า ตรวจจับสารกัมมันตรังสีได้ในปริมาณที่สูงกว่าปกติ ในกรุงโตเกียว แต่ไม่ใช่ระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ และในช่วงบ่ายก็แถลงใหม่ว่า ระดับของสารกัมมันตรังสีได้ลดลงแล้ว
 
แต่ชาวกรุงโตเกียวจำนวนมาก ไม่ค่อยจะมั่นใจ ทำให้สถานีรถไฟชินางาว่า แออัดยัดเยียดไปด้วยผู้คน

 
ส่วนใหญ่อุ้มลูกจูงหลาน พร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ เพื่อมุ่งหน้าลงใต้ พวกสิ่งของจำเป็นฉุกเฉินตามห้างสรรพสินค้า ขายหมดในพริบตา ในขณะคนยังเข้าแถวยาวเพื่อซื้อของด้วยความตื่นตระหนก ส่วนอีกเป็นจำนวนมากพร้อมแล้วสำหรับความเป็นไปได้ที่จะอยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลายาวนาน โดยบางคน บอกว่า เตรียมไว้หมดทุกอย่างทั้งน้ำดื่มข้าว , ขนมขบเคี้ยว และเนื้อ พร้อมติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด ซูเปอร์มาร์เก็ตแทบทุกแห่งเกือบจะไม่สินค้าบนชั้นวาง ยกเว้นขนมปังและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ถนนในย่านกินซ่า เงียบเหงาผิดปกติ มีคนออกไปจับจ่ายไม่มากนัก และรถแท็กซี่จอดคอยให้บริการที่สถานีรถไฟ โดยมีจอภาพขนาดยักษ์คอยรายงานสถานการณ์อัพเดท รวมถึงสภาพอากาศเพื่อคอยบอกทิศทางลม

ส่วนชาวทวิตเตอร์ญี่ปุ่น ได้ส่งข้อความออกมามากมายอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อให้กำลังใจกับผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวและสึนามิ
 
แต่ขณะเดียวกันก็ได้ทวิตเตอร์ก็เป็นลู่ทางหนึ่งที่ทำให้คนญี่ปุ่นได้พูดถึงบรรดาคนในรัฐบาลทั้งในทางที่ดีและไม่ดี เกี่ยวกับการทำงานภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินคนที่ได้คะแนนบวกจากชาวทวิตเตอร์ญี่ปุ่น ก็คือนายยูกิโอะ เอดาโน่ หัวหน้าโฆษกรัฐบาล มือขวาของนายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง จนหลายคนแทบจะมองเขาว่าเป็นวีรบุรุษในวิกฤติ จากการที่เขาไปปรากฏตัวทางโทรทัศน์แทบทุกชั่วโมง เพื่ออัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ให้เพื่อนร่วมชาติได้รู้


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์