ประมงห้ามเลี้ยง ปลาซักเกอร์ แฉสุดอันตราย!

กรมประมงเตือนปลาอันตราย ซักเกอร์ แคชฟิช หรือปลากดเกราะ

กำลังแพร่พันธุ์อยู่ในน้ำ เผยตัวการทำลายไข่ปลาท้องถิ่นของไทยตลอดจนพืชพันธุ์ชนิดอื่นในแหล่งน้ำเดียวกัน เพราะดูดทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป ปลาเศรษฐกิจนานาชนิดกำลังลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วง ล่าสุดกรมประมงห้ามนำเข้าแล้ว แต่ยังมีพ่อค้าเพาะพันธุ์อยู่ วอนอย่าซื้อมาเลี้ยงเพราะอันตรายพอๆ กับหอยเชอรี่

เมื่อวันที่ 28 พ.ย.นายอภิชาติ เต็มวิชชากร นักวิชาการประมง กรมประมง เปิดเผยระหว่างการประชุมสัมมนาเรื่อง "แนวทางการศึกษาวิจัยด้านสัตว์ป่า" ที่สำนักงานสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ว่า

กรมประมงกำลังมีความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ปลาต่างประเทศที่กำลังขยายพันธุ์คุกคามพันธุ์ปลาท้องถิ่นประเทศไทยอย่างหนัก โดยเฉพาะปลาพันธุ์ซักเกอร์ แคชฟิช (Sucker catfish) หรือปลากดเกราะ หรือที่ประชาชนรู้จักในชื่อปลาเทศบาล เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมากรมประมงพบว่ากำลังแพร่พันธุ์อยู่ในแหล่งน้ำ แม่น้ำ ลำคลองในประเทศไทย และเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะไปสำรวจตามแม่น้ำใด นักวิชาการจะพบปลาชนิดนี้ติดแหขึ้นมาเสมอ ทั้งนี้ ปลาเทศบาลนี้เป็นตัวการสำคัญในการทำลายไข่ปลาท้องถิ่นของไทย รวมทั้งพืชพันธุ์ชนิดอื่นที่อยู่ในแหล่งน้ำเดียวกัน เนื่องจากมันจะดูดเอาทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป ทำให้ขณะนี้ปลานานาชนิดซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจ รวมทั้งปลาที่อยู่ในธรรมชาติของประเทศไทยลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วง

นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า ปลาเทศบาลนี้ถูกนำเข้ามาจากต่างประเทศและถูกนำมาขายในตลาดขายปลาในราคาตัวละ 3-5 บาท ในขณะที่ยังเล็ก

โดยนักเลี้ยงปลาส่วนใหญ่เชื่อว่ามันจะช่วยกำจัดขยะ และสิ่งที่ไม่ต้องการในตู้ปลาทำให้ไม่ต้องล้างตู้ปลาบ่อยๆ ทำให้นิยมซื้อไปใส่ไว้ในตู้ปลาและเลี้ยงจนกระทั่งตัวโตเป็นฟุตๆ เมื่อเห็นว่าโตมากเกินไปก็จะนำไปปล่อยลงในแม่น้ำ ลำคลอง ทั่วไป ซึ่งปลาชนิดนี้สามารถแพร่พันธุ์ได้ง่าย ทำให้ขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วจนขณะนี้จำกัดปริมาณไม่ได้แล้ว

"กรมประมงกำลังเป็นห่วงและกำลังหาวิธีการกำจัดปลาชนิดนี้ โดยจะต้องมีองค์ความรู้ทางวิชาการว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เนื่องจากปลาพันธุ์นี้เป็นปลาต่างประเทศ และประชาชนเองก็ยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เข้าใจเพียงว่าเป็นปลาที่ช่วยกำจัดขยะในตู้ปลาจึงซื้อมาเลี้ยงไว้ดูเล่น แต่พอมันโตก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เลยนำไปปล่อยจนเกิดปัญหา ซึ่งตอนนี้เรากำลังหาวิธีการอยู่ว่าจะกำจัดอย่างไร แต่ที่สำคัญต้องให้ความรู้ประชาชนว่า อย่าซื้อปลาชนิดนี้มาเลี้ยง หรือถ้าซื้อมาเลี้ยงแล้วก็ไม่ควรปล่อยลงแหล่งน้ำแต่ควรกำจัดทิ้ง จากเท่าที่ทราบแถวอเมริกาใต้ก็กินปลาชนิดนี้อยู่ แต่ไม่รู้ว่ามีวิธีการอย่างไร ซึ่งเรากำลังศึกษาอยู่และถ้าหากทราบก็อาจจะให้ประชาชนนำมาบริโภคจะได้เป็นการกำจัดปลาเทศบาลไปในตัว" นายอภิชาติ กล่าว


ดร.ชวลิต วิทยานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านปลาน้ำจืด กล่าวว่า

ปลากดเกราะ หรือปลาเทศบาล ที่คนไทยรู้จักนี้เข้ามาในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนโดยถูกนำเข้ามาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ ซึ่งคนไทยเอามาเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม เลี้ยงไว้ดูเล่น ทั้งนี้ ปลาชนิดนี้มีความอดทน ทนทานมาก สามารถอยู่ในแหล่งน้ำเสียได้เป็นอย่างดี ชอบกินของบนหน้าดินต่างๆ รวมทั้งไข่ปลาด้วย แพร่ขยายพันธุ์ได้ง่าย อายุเพียง 1-2 ปีก็ออกลูกแล้ว โดยจะขุดโพรงดินวางไข่ครั้งละ 500-600 ฟอง ลูกปลารอดชีวิตจำนวนมากพอสมควรทำให้เพิ่มจำนวนได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้พบในแหล่งน้ำเกือบทุกแหล่งในภาคกลาง เรื่อยไปจนแหล่งน้ำภาคเหนือและกำลังกลายเป็นปัญหาในการกำจัด

"ปลาพวกนี้จะมีผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพในแหล่งน้ำของไทย เนื่องจากกินทุกอย่างและทนมาก ถ้าถามว่าร้ายแรงขนาดไหนก็คงต้องบอกว่าอยู่ในระดับน้องๆ หอยเชอรี่ ในอเมริกาใต้ก็มีคนกินเหมือนกันโดยนำมาถลกหนังกินได้ปกติ แต่เนื้อจะไม่อร่อยเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามอยากแนะนำให้ประชาชนอย่านำปลาชนิดนี้มาเลี้ยงเลย และขณะนี้กรมประมงก็ห้ามนำเข้าแล้ว แต่ยังมีพ่อค้าเพาะพันธุ์ขายอยู่ และบางทีก็นำไปให้คนปล่อยเพื่อทำบุญตามหน้าวัดต่างๆ แล้วเรียกว่าปลาราหู แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการเพิ่มจำนวนปลาอันตรายในแหล่งน้ำของไทย ส่วนคนที่มีอยู่แล้วถ้าจะเลิกเลี้ยงก็ขอให้กำจัดไปเลย อย่านำมาปล่อยลงแม่น้ำเพราะจะสร้างความเดือดร้อนกับประเทศไทยในอนาคตอย่างมาก" ดร.ชวลิตกล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์