ใต้บึมนายก อบต. ฉีก 2 ท่อน เป็นศพคาปิกอัพ

"ยิงเสียชีวิตกลางสวนยาง"



เมื่อเวลา 07.45 น. วันที่ 9 เม.ย. ร.ต.ต.สมชาย หัดขะเจ ร้อยเวร สภ.อ.รามัน จ.ยะลา

รับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตกลางสวนยางพารา

หมู่ 5 บ้านตีบุ ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิชัย บุญยงค์ รอง ผกก.ป.นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบศพนายซอและ กะนิเซ็ง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่เดียวกัน ถูกยิงด้วยกระสุนปืน 9 มม.

บริเวณลำตัวและศีรษะรวม 7 นัด

เสียชีวิตคาที่ สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นน้องชายของนายอับดุลตอและ กะนิเซ็ง รองนายก อบต.ยะต๊ะ ก่อนเกิดเหตุได้ออกมากรีดยางในสวน ถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คนบุกเข้ามาจ่อยิงจนเสียชีวิต คาดเป็นฝีมือโจรสร้างสถานการณ์รายวัน

รายต่อมาเวลา 08.00 น.

ขณะที่ จ.ส.อ.ถวิล กระแจะจันทร์ หัวหน้าชุดลาดตระเวนร้อย ร.3122 ฉก.14 อ.ธารโต จ.ยะลา พร้อมกำลังอีก 7 นาย ออกเดินเท้าลาดตระเวนตามถนนสายยะลา-เบตง ถึงบริเวณหมู่ 3 บ้านจาเราะแป ต.ธารโต อ.ธารโต

ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนซึ่งวางระเบิด

แสวงเครื่องจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ กดชนวนจุดระเบิดที่วางดักไว้ข้างทาง ทำให้ทหารบาดเจ็บ 1 นาย คือ พลฯรณชัย เจริญสุข อายุ 22 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่แขนและข้อเท้าซ้าย นำส่ง รพ.ธารโต



ก่อนจะส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ยะลา

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.อ.ธารโต พร้อมกำลังรุดมาตรวจสอบ พบว่าคนร้ายลอบวางระเบิดหนักประมาณ 5 กก. ใส่กล่องเหล็กจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ วางดักอยู่ในพงหญ้าข้างทางห่างจากถนนเพียง 1 เมตร เก็บชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือรุ่น 3310 และเศษกล่องเหล็กได้จำนวนหนึ่ง

ถัดมาเวลา 11.10 น. วันเดียวกัน

พ.ต.ท.นิยม รื่นเริง รอง ผกก.สส.สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งมีเหตุระเบิดรถยนต์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ บนถนนทางเข้าเขื่อนบางลาง หมู่ 1 บ้านบือแฆง ต.เขื่อนบางลาง

จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เดชาวุธ เจ๊ะเต๊ะ

รอง ผกก.ป. นายเมธี กาญจนภูวะ นายอำเภอบันนังสตา นำกำลังรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากสันเขื่อนประมาณ 2 กม. บริเวณริมถนนพบศพนายบือราเฮง กูนา อายุ 55 ปีอยู่บ้านเลขที่ 239/6 หมู่เดียวกัน

และเป็นนายก อบต.เขื่อนบางลาง

นอนตายอยู่ในสภาพสุดสยดสยอง ลำตัวท่อนล่างขาดหายไปเหลือแต่ลำตัวท่อนบน ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบซากรถกระบะนิสสันบิ๊กเอ็ม ทะเบียน บง 2551 ยะลา ของผู้ตายพุ่งตกลงไปข้างทาง

สภาพห้องโดยสารและห้องเครื่องพังเป็นเศษเหล็ก

โดยพบชิ้นส่วนท่อนล่างของผู้ตายตกอยู่ข้างตัวรถด้วยจึงเก็บมารวมไว้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย คือนายแวมะยูดิง อับดุลรอมาน อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 239/15 หมู่บ้านเดียวกัน



ถูกแรงระเบิดอัดกระเด็นหลุดออกจากตัวรถ

ไปนอนอยู่ในพงหญ้าห่างตัวรถไปประมาณ 5 เมตร สภาพถูกสะเก็ดระเบิดตามตัวหลายแห่ง นำส่ง รพ.บันนังสตา อาการสาหัส

จากการตรวจสอบสภาพในที่เกิดเหตุพบร่องรอย

คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องหนักประมาณ 5 กก. บรรจุในกล่องเหล็ก ลอบเข้าไปวางไว้ใต้เบาะนั่งคนขับ แรงระเบิดทำให้พื้นรถใต้เบาะนั่งทะลุเป็นรูโหว่กว้างประมาณ 1 ฟุต และยังทำให้ห้องโดยสารพังยับไม่มีชิ้นดี

นอกจากนี้ยังพบชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ

โนเกียรุ่น 3310 ตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเพิ่งได้รับเลือกเป็นนายก อบต.เขื่อนบางลาง เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเกิดเหตุเพิ่งเสร็จจากประชุมร่วมกับสมาชิก อบต.ที่สำนักงาน

จากนั้นได้ชวนผู้บาดเจ็บออกไป

ช่วยแจกการ์ดงานแต่งของหลานสาว คาดว่าคนร้ายแอบสะกดรอยตามผู้ตายมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นที่เปลี่ยวจึงกดโทรศัพท์ จุดชนวนระเบิด ทำให้นายบือราเฮงถูกแรงระเบิดฉีกร่างขาดเป็น 2 ท่อน กระเด็นออกไปเสียชีวิตนอกรถ ส่วนนายแวมะยูดิงบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว อยู่ระหว่างสืบสวนหาตัวคนร้ายต่อไป

ต่อมาเวลา 17.30 น. พ.ต.ท.นิยม รื่นเริง

รอง ผกก.สส.สภ.อ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งมีเหตุยิงถล่มขบวนรถของชาวบ้านที่กลับจากไปร่วมพิธีฝังศพ นายบือราเฮง กูนา นายก อบต.เขื่อนบางลาง ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดในรถจนเสียชีวิต



เมื่อช่วงสายของวันเดียวกัน

บริเวณถนนทางเข้าเขื่อนบางลาง หมู่ 4 บ้านฉลองชัย ต.เขื่อนบางลาง ซึ่งจุดดังกล่าวเป็นเนินเขาทั้ง 2 ข้างทางจึงประสานขอกำลังทหารรุดไปร่วมตรวจสอบและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พบว่ากลุ่มโจรใต้ได้ซุ่ม

ยิงถล่มจากยอดเนินเขาทั้ง 2

ฝั่งใส่รถกระบะไม่ทราบทะเบียน มีผู้เสียชีวิตคาที่ 3 ราย คือ นายอัสมาน โต๊ะดาหยง อายุ 25 ปี นายไซบูดิง บาละตายะ อายุ 25 ปี และ ด.ช.มะซอฟี มาลีมามะ อายุ 14 ปี ทั้งหมดเป็นราษฎรหมู่ 2 ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา

นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 7 คน

ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ขนย้ายผู้บาดเจ็บออกมาส่ง รพ.ศูนย์ ยะลา ทราบชื่อ 1. ด.ช.ซุลกิฟรี สาละนะ อายุ 12 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้านขวากระสุนฝังในอาการโคม่า อยู่ในห้องไอซียู

และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา

2. ด.ช.บูคอรี ซาลี อายุ 14 ปี 3. ด.ช.ฮาซัน ลอกา อายุ 14 ปี 4. ด.ช.อับดุลเลาะ แยนา อายุ 14 ปี 5. นายอับดุลลอยะ หะมะ อายุ 32 ปี 6. นายอับดุลลอซะ แอซอหะมะ อายุ 35 ปี และ 7. ชายอายุประมาณ 20 ปี ยังไม่ทราบชื่อ

ส่วนกลุ่มคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนี

ขึ้นไปบนยอดเขา ทางเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังปิดล้อมพื้นที่ไว้ก่อนจะส่งกำลังขึ้นไปไล่ล่าตัวในช่วงเช้าวันที่ 10 เม.ย.ต่อไป



กลุ่มโจรยังผยองไม่เลิกอาละวาด

โปรยตะปูเรือใบฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน กลุ่มโจรได้ลอบวางตะปูโปรยเรือใบตามถนนหลายสายในหมู่บ้านลิมุด หมู่ 3 ต.ท่าสาป อ.เมืองยะลา เป็นจังหวะที่นายสิงหา หมื่นเดช อายุ 35 ปี

ตำแหน่งนายช่างโยธาของ อบต.ท่าสาป

ขับรถเก๋งโตโยต้าวีออสสีดำ ทะเบียน กข 9034 ยะลา ผ่านมาประสบเหตุ ถูกคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ข้างทางใช้ปืนอาก้ากราดยิงถล่มจนเสียชีวิตคารถ หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ

ผกก. สภ.อ.เมืองยะลา นายกฤษฎา บุญราช

รอง ผวจ. ยะลา นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และรับแจ้งมีคนถูกยิงเสียชีวิตอีกราย ห่างจากจุดที่นายสิงหาถูกยิงเสียชีวิตไปประมาณ 1 กม. รุดไปตรวจสอบพบศพนายอินคำ วงศ์ปัญญา อายุ 35 ปี

อาชีพขี่รถ จยย.แบบพ่วงข้างเร่ขายไอศกรีมยี่ห้อหนึ่ง

ถูกยิงด้วยปืนอาก้าที่ลำตัวและใบหน้านอนตายอยู่ข้างรถ จยย.แบบพ่วงข้างติดตู้แช่ไอศกรีมทะเบียน กพม ยะลา 296 สอบสวนทราบว่าหลังถล่มยิงนายสิงหาจนเสียชีวิต 2 คนร้ายแต่งชุดดำได้ขี่รถ จยย.หลบหนีผ่านไปเจอนายอินคำจึงกราดยิงร่วงเป็นศพที่ 2 ก่อนจะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เวลาไล่เลี่ยกันขณะที่ ร.ต.ต.วรากร ไชยวงศ์ พงส. (สบ 1)

สภ.ต.ลำใหม่ อ.เมืองยะลา นั่งรถกระบะสายตรวจของโรงพักโดยมี ส.ต.อ.เปาซี เจ๊ะเต๊ะ เป็นพลขับออกจากโรงพักจะไปศาลจังหวัดยะลา ขณะที่รถวิ่งมาเกือบจะถึงหัวสะพานบ้านท่าสาป หมู่ 4 บ้านสาคอ ต.ท่าสาป



จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังกึกก้องบริเวณเชิงสะพานทางขึ้น

แรงระเบิดทำให้รถสายตรวจเสียหายด้านหน้า และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นชาวบ้านที่ขี่รถ จยย.ทะเบียน กวบ 389 ยะลา ผ่านมาพอดี ทราบชื่อนายอดินันท์ อาแซ อายุ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บที่ขาและลำตัวนำส่ง

รพ.ศูนย์ยะลา หลังเกิดเหตุทาง

ร.ต.ท. กิตติภูมิ ตาบุตรวงศ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา นำกำลังรุดไปตรวจสอบ พบหลุมระเบิดกว้าง 2 ฟุต ลึก 1 ฟุต บริเวณเชิงสะพานทางขึ้น และพบสายไฟลากยาวหายเข้าไปในป่าข้างทางประมาณ 50 เมตร

จึงตามเข้าไปตรวจสอบพบแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลต์

และร่องรอยคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน แอบซุ่มอยู่จนหญ้าราบเป็นวงกว้าง คาดว่าคนร้ายลอบฝังระเบิดหนักประมาณ 10 กก. ก่อนจะดักซุ่มจุดชนวนระเบิดหมายถล่มรถของเจ้าหน้าที่ที่วิ่งผ่านไปมา แต่พลาดไปโดนชาวบ้านบาดเจ็บแทน

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ยังพบว่าคนร้ายที่น่าจะเป็นชุดเดียวกัน ได้ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในท่อพีวีซีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 นิ้ว ยาวประมาณ 1 ฟุต บรรจุปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทผสมน้ำมันดีเซลหนักประมาณ 5 กก.

ไว้ตามจุดต่างๆอีก 3 แห่ง คือ

1. เชิงสะพานหมู่ 3 ต.ยุโป 2. เชิงสะพานหน้าเรือนจำจังหวัดยะลา และ 3. ปากทางเข้าหมู่บ้านลิมุด ต.ท่าสาป จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดศรชัย นำกำลังรุดไปเก็บกู้ไว้ได้ทั้ง 3 จุด ก่อนจะนำไปทำลายทิ้งต่อไป



เมื่อเวลา 10.45 น. วันเดียวกัน

ที่ทำเนียบรัฐบาล รอ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในระหว่างวันที่ 18-20 เม.ย. จะพาคณะสื่อมวลชนลงไปดูพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก่อนจะเดินทางไปในวันที่ 10 เม.ย.

ทางสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

จะเชิญสื่อมวลชนที่จะเดินทางไป มารับฟังข้อมูลพื้นฐานเพื่อเตรียมตัวในการเดินทาง สำหรับกำหนดการเบื้องต้นจะพาสื่อมวลชนลงไปดูพื้นที่ และพักค้างคืนในพื้นที่ 2 คืน โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี

จะลงไปพร้อมกับสื่อมวลชน

และลงพื้นที่ด้วยกัน 1 วัน แบบไปเช้า-เย็นกลับ เนื่องจากติดภารกิจอื่นที่ต้องกลับมาปฏิบัติ โดยนายกรัฐมนตรีจะเน้นไปดูเรื่องของสวัสดิการข้าราชการตำรวจ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

ซึ่งนายกรัฐมนตรีอยากให้สื่อมวลชน

จากส่วนกลางลงไปสัมผัสบรรยากาศการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วยตัวเอง จะได้มีโอกาสไปสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น และข้าราชการที่ทำงานในพื้นที่

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า

นอกจากนี้จะได้จัดเวทีให้สื่อมวลชนจากส่วนกลางได้พบปะกับสื่อมวลชนท้องถิ่น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน โดยคาดหวังว่าสื่อมวลชนที่เดินทางไปครั้งนี้จะได้วิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้น

และให้คำแนะนำเพิ่มเติมกับฝ่ายเจ้าหน้าที่

บ้านเมืองในสิ่งที่อาจจะต้องดำเนินการเพิ่มเติม และการลงพื้นที่ของสื่อมวลชนครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังเพียงลงไปทำข่าวเท่านั้น แต่อยากจะได้ความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาภาคใต้จากสื่อมวลชนด้วย

ซึ่งก็คงมีเวลาส่วนหนึ่งที่นายกรัฐมนตรี

จะได้พบกับสื่อมวลชนส่วนกลางพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ส่วนเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้กับคณะที่เดินทางลงไปครั้งนี้ จะสร้างความยุ่งยากหรือไม่ รอ.นพ.ยงยุทธกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้เตรียมการดูแลไว้อย่างเต็มที่ในจุดต่างๆแล้วไม่ต้องเป็นห่วง



ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์