แกะรอย ปล้นร้านทอง 3 ศพ

เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 9 ก.ย.


พ.ต.ท.สมพงษ์ ธุลารัตน์ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.จักรวรรดิ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านทองกิมเจี้ยฮั้ว เลขที่ 11 ถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วณิช สุรพลชัย ผบก.น.6 พ.ต.อ.นิยม คำสวัสดิ์ ผกก.สน.จักรวรรดิ และรถดับเพลิง 5 คัน

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น บริเวณชั้น 2 มีเปลวเพลิง


กลุ่มควันและกลิ่นแก๊สพวยพุ่งออกมาเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดน้ำสกัดนานกว่า 30 นาทีเพลิงจึงสงบ เมื่อเข้าไปตรวจสอบในอาคารพบถังแก๊สขนาด 15 กก.จำนวน 3 ถังและถังอ๊อกซิเจนอีก 1 ถังอยู่บริเวณชั้นล่าง ตรงบันไดทางขึ้นมีทองรูปพรรณเป็นสร้อยคอและเลสข้อมือกว่า 40 เส้นตกเกลื่อนพื้นใกล้กันพบตู้เซฟขนาดใหญ่มีรอยถูกเจาะด้วยความร้อนเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ขนเอาทรัพย์สินไปหมดเกลี้ยง

ห่างไปเล็กน้อยพบศพนางจินดา ศิระพัฒนกุล อายุ 50 ปี คนดูแลร้าน


นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีรอยถูกตีแสกหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ที่มือขวากำธนบัตรราคา 1 พันบาทแน่น ส่วนมือซ้ายกำเส้นผมไว้กระจุกหนึ่ง มีหัวเชื่อมแก๊ส และแกลลอนน้ำมัน 2 ถัง วางรวมอยู่ด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปตรวจสอบบนชั้นลอยยังพบศพ น.ส.ภาวนา เลิศสัมพันธ์กุล อายุ 24 ปี ลูกสาวของนางจินดา ในสภาพนอนหงายที่ท้ายทอยและปลายคางมีรอยถูกตีเป็นแผลลึก และที่ห้องน้ำชั้น 3 พบศพนางศุนภา ไหมทอง อายุ 41 ปี ลูกจ้างอีกคนถูกตีที่ใบหน้าตายอย่างโหดเหี้ยมเช่นเดียวกัน

จากการสอบสวนนางเพิ่มศิริ วงปรากรม อายุ 55 ปี เจ้าของร้านทราบว่า


ร้านทองที่เกิดเหตุมีคนพักอยู่ 4 คน ประกอบด้วย กลุ่มของผู้ตาย และนายภิรมย์ ไหมทอง อายุ 42 ปี สามีนางศุนภาที่ไม่อยู่บ้าน เนื่องจากขอลางานไปเยี่ยมพ่อแม่ใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี คาดว่า คนร้ายอาจมีหนอนบ่อนไส้ที่รู้ความเคลื่อนไหวของร้านในการเก็บทองรูปพรรณใส่ตู้เซฟ จึงนำอุปกรณ์เข้าไปเจาะเซฟกวาดทรัพย์สินจนเกลี้ยงตู้ ส่วนเป็นมูลค่าเท่าใดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ขอยืนยันว่าร้านไม่ได้ทำประกันภัยเกี่ยวกับทรัพย์สินเอาไว้ คดีนี้จึงไม่ใช่สร้างเรื่องขึ้นเพื่อเอาเงินประกันแน่นอน

พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.กล่าวว่า


ถือเป็นครั้งแรกที่มีการปล้นในลักษณะที่เข้าไปฆ่าเจ้าทุกข์ และวางเพลิงอำพรางคดี คนร้ายน่าจะมีมากกว่า 1 คน เพราะต้องช่วยกันยกถังแก๊สที่มีน้ำหนักมาก วางแผนมาเป็นอย่างดี รู้ข้อมูลคนภายในร้าน เมื่อฆ่าลูกจ้างหมดแล้วได้นำแก๊สและอุปกรณ์ไปเจาะตู้เซฟกวาดเอาทรัพย์สิน ก่อนเปิดแก๊สทิ้งไว้เอาน้ำมันราดออกมาด้านนอกแล้วถึงจุดไฟเผาให้แก๊สระเบิดหวังทำลายพยานหลักฐาน ขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สน.จักรวรรดิ ประสานงานข้อมูล กก.สส.บก.น.6 ตรวจสอบแผนประทุษกรรม เพื่อเป็นแนวทางติดตามกลุ่มคนร้ายแล้ว

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ก.ย.


พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ สู่พานิช สว.สส.สน.จักรวรรดิ นำตัวนายภิรมย์ ไหมทอง อายุ 42 ปี สามีของนางศุนภา ไหมทอง ลูกจ้างที่ถูกฆ่าตาย อยู่บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ 9 ต.สระสี่เหลี่ยม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ที่ลากลับบ้านในคืนวันเกิดเหตุพอดีไปสอบปากคำให้การว่า เป็นลูกจ้างของร้านมานาน 10 ปี ทำหน้าที่กัดทอง หลอมทอง แลกเช็คธนาคาร และดูแลความเรียบร้อยในร้าน ส่วนนางศุนภาเคยทำงานอยู่ในร้านเช่นกัน ทว่าค่าใช้จ่ายไม่พอเลี้ยงลูกจึงลาออกไปเปิดร้านขายน้ำผลไม้ปั่นในตลาดสี่พระยา แต่ยังพักอยู่ที่ร้านเพื่อทุ่นค่าใช้จ่าย วันเกิดเหตุร้านปิด เพราะนางเพิ่มศิริ เจ้าของร้านไปทำบุญที่ จ.อุดรธานี ตนก็กลับบ้านไปทำธุระ เพิ่งทราบข่าวจึงรีบมาที่ร้าน พบภรรยาถูกคนร้ายฆ่าพร้อมลูกจ้างรวม 3 ศพ ก่อนเจาะตู้เซฟเอาทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 500 บาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่ากว่า 5 ล้านบาทหลบหนีไป

นายพรชัย หรือบุญชู แซ่ก๊วย อายุ 46 ปี


อยู่บ้านเลขที่ 594/16 ซอยสุขสวัสดิ์ 26 แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. ลูกจ้างอีกคนให้ปากคำว่า เป็นลูกจ้างนาน 20 ปี เมื่อก่อนเคยเป็นหัวหน้า หลังประสบอุบัติเหตุขาหักจึงให้นายภิรมย์ทำหน้าที่แทน แต่ยังคอยช่วยเหลืองานอยู่ ความจริงแล้วนางเพิ่มศิริ เจ้าของร้านยังเคยมีลูกจ้างชาวลาวอีกคน แต่ถูกไล่ออกไปราว 4 เดือน เพราะจับได้ว่าแอบขโมยทองในร้านหลายครั้ง ก่อนโดนไล่ออกเคยพาแฟนหนุ่มสัญชาติเดียวกันมาที่ร้านบ่อยครั้ง ไม่แน่ใจว่าจะโกรธแค้นพาพวกย้อนกลับมาปล้นหรือไม่

ด้าน พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ สู่พานิช สว.สส.สน.จักรวรรดิ เปิดเผยว่า


กำลังตรวจสอบที่มาที่ไปของถังแก๊สในจุดเกิดเหตุและฟันปลอมเปื้อนคราบเลือดที่ตกอยู่บริเวณหน้าตู้เซฟ ลักษณะเป็นของผู้ชาย สงสัยเป็นของคนร้าย เพราะในร้านเกิดเหตุไม่มีใครใส่ฟันปลอม รวมทั้งเส้นผมจำนวนหนึ่งในกำมือศพนางจินดา ศิระพัฒนกุล คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับกลุ่มผู้ตาย มีไม่ต่ำกว่า 3 คน แอบเข้าไปฆ่าเหยื่อทีละคนแล้วเจาะเซฟอย่างใจเย็น เนื่องจากมีพยานเห็นชาย 2 คน ขนถังแก๊สเข้าไปในร้านตั้งแต่ช่วงบ่ายโมง แต่ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่านำแก๊สหุงต้มมาส่งธรรมดา

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์