เมียหาย-หนุ่มฉุนวางบึ้มเก๊ป่วน

วุ่นทั้งตลาด มือมืดวางระเบิดหลังร้านโชห่วย ตร.รีบกันไทยมุงพ้นรัศมี เรียกหน่วยกู้ระเบิดมาช่วยเหลือ พอดีมีรองประธานสภาเทศบาลตำบล ที่เป็นทหารเก่า มาสังเกตการณ์ ขี้เกียจรอเลยจัดการกู้ระเบิดเสียเองจนสำเร็จ พบเป็นระเบิดของปลอม ประกอบขึ้นมาเพื่อหวังข่มขู่เท่านั้น ทางด้านเจ้าของร้านที่เกิดเหตุแฉ สงสัยฝีมือหนุ่มเมียทิ้งที่เคยมาถามหาเมียถึงร้าน อ้างว่าร้านเอาเมียไปซ่อน แล้วขู่จะเล่นงานไว้

เมื่อเวลา 08.30 น วันที่ 12 ธ.ค. ร.ต.ต.สันติ หนูช่วย ร้อยเวร สภ.อ.บางแพ จ.ราชบุรี รับแจ้งพบกล่องบรรจุวัตถุต้องสงสัยวางอยู่ริมกำแพงรั้ว หลังอาคารพาณิชย์ตลาดบางแพ ชื่อร้าน "ศรีวรรณดี" เลขที่ 45/3-4 ต.บางแพ อ.บางแพ ซึ่งเป็นร้านค้าโชห่วย ใกล้บริเวณงานเทศกาลกินกุ้งและของดีบางแพ ครั้งที่ 5 เมื่อได้รับแจ้งจึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วนำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยพ.ต.ท.อรรถชัย อุ้ยเถาวัลย์ รองผกก.(ป) พ.ต.ท.ธีรวัฒน์ อินทร์จักร์ สวป. รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุมีประชาชนทั้งใกล้เคียงและนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังจับกลุ่มมุงดู โดยที่บริเวณหลังห้องแถวซึ่งเป็นซอยแคบ ที่กำแพงมีกล่องโทรศัพท์มือถือ ภายในบรรจุนาฬิกาปลุก สีแดง 1 เรือน และมีวัตถุสีดำพันด้วยผ้าเทปพันสายไฟก้อนขนาดกระป๋องนม มีสายไฟโยงเข้าหากัน

เจ้าหน้าที่เห็นดังนั้นจึงรีบกันประชาชนให้ห่างออกไป แล้วรีบประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บกู้ กระทั่งเวลา 10.20 น. ขณะที่กำลังรอหน่วยเก็บกู้อยู่นั้น ได้มีจ.ส.อ.ชัยพฤกษ์ สืบนุช รองประธานสภาเทศบาลตำบลบางแพ เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ และตรงเข้าไปดูกล่องดังกล่าว โดยจ.ส.อ.ชัยพฤกษ์คาดว่าน่าจะเป็นการข่มขู่มากกว่า จึงทำการเก็บกู้เสียเองท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของผู้คนที่มุงดูอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งจ.ส.อ.ชัยพฤกษ์ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 1 นาที ก็สามารถเก็บกู้ได้สำเร็จ

จ.ส.อ.ชัยพฤษ์ กล่าวว่า เคยเป็นครูสอนทหารในการใช้ระเบิด มีความเชี่ยวชาญเรื่องระเบิดเป็นอย่างดี จากการตรวจสอบแล้ว พบว่าภายในกล่องกระดาษดังกล่าวบรรจุนาฬิกาปลุกมีสายไฟฟ้าเชื่อมโยงเข้ากับกระป๋องกาแฟ พันด้วยผ้าเทปพันสายไฟสีดำคลุมทั้งกระป๋อง เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

จากการสวบสวน นายอภิชัย โพธิ์ฮะ อายุ 35 ปี เจ้าของร้านศรีวรรณดี ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีนายเม่น ไม่ทราบนามสกุล มากล่าวหาว่าตนไปพาภรรยาของนายเม่นมาซ่อน นายเม่นพยายามที่จะมาสอบถามและข่มขู่ตนตลอดเวลา ทั้งที่ตนไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จึงปฏิเสธไปทุกครั้ง คาดว่าคงทำให้นายเม่นโกรธและพยายามจะทำร้ายตน จนตนเองต้องคอยหลบหน้า

จนกระทั่งมีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเป็นฝีมือการข่มขู่ของนายเม่น ที่กำลังจิตใจคลุ้มคลั่งที่ถูกภรรยาทิ้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้พยายามมาสอบถามนายอภิชัย แต่นายอภิชัยไม่รู้เรื่องและช่วยอะไรไม่ได้ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำไปตรวจสอบลายนิ้วมือหากมีลายนิ้วมือของนายเม่นปรากฏอยู่ในหลักฐานจะรีบออกหมายจับมาดำเนินคดีต่อไป