หมอมุกลุกนั่ง-ยิ้มได้-ตร.รอให้ปากคำ

พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา


หมอมุกลุกนั่ง-ยิ้มได้-ตร.รอให้ปากคำ

หมอมุกลุกนั่ง-ยิ้ม ได้แล้ว ทำกายภาพบำบัดวันแรกอาการดีขึ้น แม่เผยโทรศัพท์ลึกลับเตือนให้ระวังถูกทำร้าย รพ.สั่งติดป้ายห้ามเยี่ยม ขณะที่ ตร.รอผลตรวจจาก พฐ.อีก 2-3 วัน ยังระบุไม่ได้ชายหรือหญิงขับ ชี้รอหมอมุกให้ปากคำได้ รู้ชัดใครขับชน ลูก พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ยังไม่ติดต่อให้ปากคำ

ความคืบหน้าคดี พ.ต.พญ.หทัยพร อิ่มวิทยา หรือหมอมุก แพทย์ประจำคลินิกผู้สูงอายุ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถูกรถชนบริเวณหน้าเสาวรสคลินิก ถนนเศรษฐศิริ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อแจ้งข้อหาแก่คนก่อเหตุ หลัง พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น อายุ 51 ปี ผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานบัญชีทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เข้ามอบตัวระบุว่าเป็นผู้ขับรถคันเกิดเหตุ

ล่าสุด
  เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน 2554 พ.ต.อ.สมาน รอดกำเนิด ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก แต่จะต้องสอบไปเรื่อยๆ ขณะนี้ผลยังไม่ชี้ชัดว่าใครเป็นคนขับรถพุ่งชนหมอมุก แม้กระทั่ง พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ที่เข้ามอบตัว ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใดๆ และหากหมอมุกอาการดีขึ้น ก็จะรีบให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำทันที จะได้ข้อสรุปว่าในวันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง และใครเป็นผู้ที่ขับรถชนหมอมุกกันแน่ ตนได้ติดตามข่าวอาการของหมอมุกมาตลอด ภาวนาขอให้หายในเร็ววันเพื่อจะได้ทำให้คดีนี้เกิดความกระจ่าง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาแม่หมอมุกถูกบุคคลลึกลับโทรศัพท์ไปข่มขู่ ทางตำรวจมีการนำกำลังไปดูแลหรือไม่ พ.ต.อ.สมาน กล่าวว่า ?

"เรื่องการนำกำลังไปรักษาความปลอดภัยครอบครัวหมอมุกนั้น ตนยังไม่ได้รับการประสานงานจาก พญ.พรรณกร คุณแม่ของหมอมุกเลย อีกทั้งยังไม่ได้มีการแจ้งความด้วยว่าถูกคนโทรศัพท์ไปข่มขู่ แต่หากมีการประสานมาและยิ่งมีการข่มขู่กันเช่นนี้ ก็จะจัดกำลังไปดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่แน่นอน"

พ.ต.อ.สมาน กล่าวอีกว่า "ลูกสาวของ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาให้ปากคำแต่อย่างใด โดย พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์อ้างว่าติดงานที่ต่างจังหวัด และอยากจะขอเดินสายทำบุญไหว้พระก่อน ถ้าหากลูกสาวจะมาก็คงมาพร้อมกับ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ สำหรับเรื่องหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อื่นๆ อาทิ ผลตรวจลายนิ้วมือ ผลตรวจดีเอ็นเอ ตนไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆ ได้ เนื่องจากผลการตรวจพิสูจน์จาก พฐ.ยังไม่ออกมา คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีก 2-3 วัน"

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


เมื่อถามถึงว่าขณะนี้มีกระแส ข่าวออกมาว่าคนที่ขับรถตัวจริงเป็นลูกของ นายทหารซึ่งเป็นทอม รูปร่างท้วม มีนิสัยใจร้อนมาก และกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง พ.ต.อ.สมาน กล่าวว่า ?


"ไม่รู้ว่าผู้สื่อข่าวไปเอา ข่าวมาจากไหน อาจจะเป็นแค่ข่าวลือ เรื่องนี้ตนไม่ทราบมาก่อนจริงๆ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถระบุได้ว่าคนขับรถพุ่งชนหมอมุกที่ แท้จริงเป็นใคร เป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย เพราะการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ลูกสาว พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ยังไม่เดินทางมาให้ปากคำ หลักฐานจากพฐ.ก็ยังไม่ส่งมา และยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใครเลย ทางตำรวจดำเนินคดีไปตามขั้นตอน หากพยานหลักฐานชี้ชัด ประกอบกับหมอมุกสามารถให้ปากคำได้ เมื่อนั้นก็จะรู้ว่าใครคือคนขับตัวจริง

พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 กล่าวว่า

"เรื่องกระบวน การทางวิทยาศาสตร์ ขณะนี้รอตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดอีกครั้ง คาดว่าวันที่ 28-29 มิถุนายน จะแล้วเสร็จ ก่อนส่งมาให้พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ภาพที่ได้จะคมชัดกว่าเดิม ในระดับที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงพอสมควร เมื่อนำมาประกอบกับพยาน หลักฐานอื่นๆ ก็น่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ รวมผลการตรวจสอบดีเอ็นเอภายในรถด้วย"

"ส่วนการตรวจสอบพยานบุคคลในที่ เกิด เหตุคืบหน้าไปมาก มีการสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์อีก 1-2 คน สำคัญพอที่จะเสริมหรือขัดแย้งกับคำให้การของคู่กรณี นอกจากนี้ พ.อ.ศักดิ์สิทธิ์ นัดว่า วันที่ 28 มิถุนายน จะมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม เป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับทางคดี แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นภาพอะไร ส่วนกรณีการเข้าพบนั้นน่าจะยังไม่พาบุตรสาวมา เพราะต้องรอนัดกับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากหากไม่นัดก่อนพนักงานสอบสวนอาจไม่พร้อม ซึ่งพยานปากนี้ถือเป็นพยานสำคัญในคดี"

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


ส่วนความคืบหน้าอาการของหมอมุกนั้น ที่หออภิบาลผู้ป่วยหนัก (ไอซียู) อาคารท่านผู้หญิงประภาศรี กำลังเอก โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีผู้นำกระเช้าดอกไม้มาเยี่ยมพร้อมเซ็นหนังสือให้กำลังใจ พญ.พรรณกร กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าเห็นอาการลูกดีขึ้นก็ดีใจ ตอนนี้ร่างกายซีกขวาไม่ค่อยมีแรง ตนก็ช่วยบีบนวดให้ ในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฝังเข็มมารักษาให้หมอมุกด้วย ส่วนคดีเป็นหน้าที่ของตำรวจ แต่เมื่อวานนี้ (26 มิ.ย.) มีตำรวจมาคอยรับส่งและต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มาดูแลด้วย อีกทั้งเมื่อเช้าได้รับแจ้งจากพยาบาลเวรกลางคืนว่ามีคนโทรมาเตือนว่าตอนนี้หมอมุกเริ่มหายเป็นปกติ ให้ระวังว่าจะมีคนมาทำร้าย ทำให้ทางโรงพยาบาลนำป้ายห้ามเยี่ยมมาติดหน้าประตูห้องไอซียู

ด้านนายกอสล้าง วรรณรสพากย์
ลูกพี่ลูกน้องของหมอมุก กล่าวว่าได้รับแจ้งจากพยาบาลผลัดกลางคืนว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. มีชายเสียงมีอายุโทรเข้ามาที่ห้องฉุกเฉินเตือนให้ระวัง ตอนนี้หมอมุกอาการ ดีขึ้นแล้ว อาจจะมีคนมาทำร้าย ตนกับ พญ.พรรรณกร ยังไม่เข้าใจเจตนาของผู้ที่โทรเข้ามา เลยโทรปรึกษา ร.ต.อ.สุขประเสริฐ หลัดกอง ร้อยเวรเจ้าของคดี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเลยส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมาเฝ้า

พ.อ.นพ.พีระพล ปกป้อง ผู้อำนวยการกองอุบัติเหตุและเวชกรรมฉุกเฉิน รพ.พระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า วันนี้อาการหมอมุกดี ขึ้นมาก ไข้ลดแล้ว มีปฏิกิริยาโต้ตอบสามารถทำตามคำสั่ง ยิ้มโต้ตอบ ปรับเตียงขึ้นนั่งได้ และทำตามคำสั่งได้บ้างแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี และมีความหวังว่าหมอมุกจะ กลับฟื้นคืนปกติ ส่วนอาการของตับอ่อนที่อักเสบก็ไม่น่าเป็นห่วง มีเพียงการเฝ้าระวังความดัน ชีพจร ออกซิเจนในปอด และระบบการหายใจ ระหว่างการทำกายภาพบำบัด หลังจากทำแล้วปรากฏว่าผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แม้ว่าจะยังมีอาการเกร็งตามกล้ามเนื้ออยู่บ้าง เป็นอาการปกติของผู้ป่วยที่นอนนานๆ ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณหมอมีอาการดีขึ้นตามลำดับ และหวังว่าจะสามารถหายดีเป็นปกติได้ กรณีหลังมีคนโทรศัพท์เตือนให้ระวังอาจมีคนมาทำร้ายหมอมุก ตนจะนำเรื่องนี้ปรึกษาผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพื่อจัดหาเจ้าหน้าที่มาเฝ้า

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต


พ.อ.นพ.อารมย์ ขุนภาษี
ผู้อำนวยการกองเวชศาสตร์ฟื้นฟู กล่าวว่า นักกายภาพบำบัดได้เข้ามาทำกายภาพบำบัดให้แก่คุณหมอเป็นวันแรก โดยวันนี้ที่ทำกายภาพให้แก่คุณหมอ คือ ปรับเตียงให้ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ กระตุ้นแขน ขา เพื่อไม่ให้ข้อพับต่างๆ ยึด ให้ทำตามคำสั่งแบบง่ายๆ เช่น หันซ้าย ขวา หลับตา ยกมือ เป็นต้น ผลปรากฏว่ามีการตอบสนองที่ดี บ่งบอกถึงอาการที่ดีขึ้นมาก ซึ่งก็ยังต้องประเมินวันต่อวันถึงพัฒนาการต่อไป อย่างไรก็ตามการตอบรับกับคำสั่งที่ให้ทำตาม เช่น ยกมือ หลับตา และหันซ้ายขวาที่ดีของหมอมุก เป็นที่น่ายินดีว่าจะสามารถพัฒนาจากการที่คนป่วยนอนเป็นเวลานานๆ แล้วลุกนั่ง จากนั้นก็จะพยายามให้สามารถนั่งข้างเตียงและลุกยืนได้ตามลำดับ ซึ่งจะทำกายภาพให้วันละ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณครึ่งชั่วโมง และขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้ป่วยด้วย

"สิ่งที่สำคัญที่ทำให้คุณหมอมุกฟื้นตัวได้เร็วคือการกระตุ้นจากเพื่อนๆ ที่มาให้กำลังใจ ญาติพี่น้อง และคุณแม่ ดูได้จากขณะที่ทำกายภาพหมอมุกยิ้ม และมีปฏิกิริยาโต้ตอบ มอง นักกายภาพบำบัดและสามารถยกแขนเองได้ จึงอยากให้คุณแม่หมั่นกระตุ้นและทำกายภาพให้คุณหมอบ่อยๆ โดยเฉพาะซีกขวามือ ที่มีการตอบรับที่ยังน้อยอยู่ หลังจากนั้นเราค่อยมาประเมินกันอีกที ถึงโปรแกรมที่จะทำกายภาพให้แก่คุณหมอต่อไป" พ.อ.นพ.อารมย์กล่าว

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมคณะ เดินทางมาเยี่ยมหมอมุก พร้อมเปิดเผยว่า ตนเป็นรุ่นพี่ของคุณแม่หมอมุกที่ศิริราช และเป็นอาจารย์ของหมอมุกที่ วชิรพยาบาลอีกด้วย ฉะนั้นหมอมุกจึงเป็นทั้งหลานในไส้ และทางวิชาชีพด้วย ตนมาเยี่ยมในฐานะป้า เบื้องต้นพบว่าหมอมุกมีอาการดีขึ้นมากแล้ว มีการตอบสนองที่ดี

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์