ศาลจำคุก3ปีคนขับรถร่วมทำนศ.ตกตาย

"เป็นเหตุให้ตกจากรถสมองบวม"


เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ก.ย. ที่ห้องพิจารณาคดีศาลอาญา พนักงานอัยการ นายนำ โชติมนัส เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายทวิม แสงเดช พนักงานขับรถโดยสารร่วมบริการสาย 207 เป็นจำเลย ในความผิดฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

คำพิพากษาใจความว่า โจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 48 บรรยายความผิดสรุปว่า วันที่ 14 ก.ย. 47 เวลากลางคืน จำเลยขับรถร่วมบริการ สาย 207 ทะเบียน 10-3688 กรุงเทพมหานคร วิ่งรับส่งผู้โดยสารจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง 1 ไปสี่แยกลำสาลี เพื่อไปมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 มีผู้โดยสารจำนวนมาก รวมทั้ง น.ส.ปิยะธิดา โชติมนัส ผู้ตาย นั่งไปด้วย ขณะรถแล่นถึงบริเวณแยกลำสาลีเพื่อเลี้ยวขวาเข้าถนนศรีนครินทร์ ด้วยความเร็ว ประตูปิด-เปิดอัตโนมัติ เสียใช้งานไม่ได้ เป็นเหตุให้ น.ส.ปิยะธิดาพลัดตกจากรถกระแทกพื้นถนนอย่างแรง ทำให้บาดเจ็บสมองบวมช้ำ มีรอยช้ำใต้หนังศีรษะ และกะโหลกศีรษะด้านขวาหายไปบางส่วน ต่อมาวันที่ 24 ก.ย. 47 น.ส.ปิยะธิดาเสียชีวิตลงเนื่องจากสมองฟกช้ำบวม เป็นผลจากการกระทำโดยประมาทของจำเลย ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ

"เรียกค่าเสียหายกว่า 10 ล้าน"


จำเลยรับสารภาพ โดยพนักงานคุมประพฤติ ทำการสืบเสาะจำเลย พร้อมให้ถ้อยคำว่า จำเลยทราบว่าประตูอัตโนมัติไม่สามารถใช้การได้ จึงนำเชือกผูกมัดไว้ ขณะกำลังเลี้ยวรถผ่านแยกลำสาลีนั้น เห็น น.ส.ปิยะธิดา ยืนอยู่ตรงประตู กำลังใช้โทรศัพท์มือถือพูดคุยอยู่ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือหนังสือเรียน ด้วยความเร็วประมาณ 10 กม. ต่อชั่วโมง ระหว่างนั้นได้ยินเสียงผู้โดยสารในรถร้องตะโกนว่ามีคนตกรถ จึงรีบจอดรถแล้วลงไปดู พบร่าง น.ส.ปิยะธิดา จำเลยรับว่าเป็นผู้กระทำประมาทเป็นเหตุ ให้ น.ส.ปิยะธิดาถึงแก่ความตาย ทางด้านบริษัทพาณิชย์ ประกันภัย ได้จ่ายเงินค่าทดแทน และค่าผู้ประสบภัยทางรถให้กับญาติผู้ตายไปจำนวน 7.5 แสนบาท โดยจำเลยได้เจรจามอบเงินอีกจำนวน 1 แสนบาท ให้ แต่นายนำ บิดา น.ส.ปิยะธิดา ไม่ยอมรับ

ด้านนายนำ ให้ถ้อยคำกับพนักงานคุมประพฤติว่า ระหว่างที่ น.ส.ปิยะธิดา เข้ารักษาตัวอยู่ รพ.รามคำแหง จำเลยได้ไปเยี่ยม 2 ครั้ง เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาทั้งสิ้น 2 แสนบาท และนำศพลูกสาวไปบำเพ็ญกุศลที่วัดศรีบุญเรือง 9 วัน ส่วนที่ไม่ขอรับเงินจำนวน 1 แสนบาท เนื่องจากต้องการใช้สิทธิทางศาล โดยได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหายจำนวน 12 ล้านบาท ศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้จำเลยกับพวก ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 10,747,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ศาลสอบคำให้การจำเลยว่า จะคัดค้านถ้อยคำที่ให้ไว้กับพนักงานคุมประพฤติหรือไม่ จำเลยแถลงว่าไม่คัดค้าน

"ไม่รอลงอาญา"


ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ฐานกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มาตรา 43 อนุ 2 เป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษจำคุก 3 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน จากการพิจารณาพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า จำเลยมีอาชีพเป็นผู้ขับรถโดยสารสาธารณะ จึงต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

สำหรับคดีนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 14 ก.ย.47 ขณะที่ น.ส.ปิยะธิดา หรือน้องหุย โชติมนัส นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารการเงินระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เลิกเรียน นั่งรถร่วมประจำทาง ขสมก. สาย 207 มีนายทวิม แสงเดช เป็นพนักงานขับรถเพื่อเดินทางลับบ้านพัก ช่วงจังหวะเตรียมตัวรอรถเข้าจอดป้าย ยืนอยู่บริเวณประตูทางขึ้น-ลง ได้ถูกแรงเหวี่ยงรถเมล์ตกกระแทกพื้นถนนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในเวลาต่อมาขณะรักษาตัวอยู่ รพ.รามคำแหง ทำให้นายนำ โชติมนัส บิดาผู้สูญเสียเหยื่อรถเมล์ร่วมบริการ ยื่นฟ้อง ร้องคดีทั้งศาลอาญาและศาลแพ่ง จนกระทั่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกโชเฟอร์รถร่วมรายนี้โดยไม่รอลงอาญา


แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมเรื่องน่าอ่าน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์