ล่าน้องหมอหนีซุก ปีกอดีตบิ๊กตำรวจ

ความคืบหน้าในการคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงนางระวีวรรณ เสตะรัต หรือนางอภัสนันท์ ธิติโชติชัยปรีชา สาวใหญ่เหยื่อศัลยกรรมใบหน้า คู่กรณีที่มีเรื่องฟ้องร้องกับ นพ.ไพศาล หรือกวีวัธน์ เฮงสวัสดิ์ เจ้าของสถานเสริมความงามไบโอคลินิก ย่านดอนเมือง เสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านย่านถนนแฮปปี้แลนด์ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา

หลังจากตำรวจกองปราบฯจับกุมตัวนายจตุรงค์ หรือตึ๋ง เบ็ญกูล มือปืนที่ก่อเหตุไว้ได้

พร้อมให้การซัดทอดนายประกอบ หรือกอบ สีนาค กับนายศักดา เฮงสวัสดิ์ ว่าร่วมในขบวนการสังหาร โดยนายประกอบเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์พานายจตุรงค์หลบหนี ส่วนนายศักดา น้องชาย นพ.ไพศาล เป็นผู้จ้างวาน จึงมีการขออนุมัติออกหมายจับและออกติดตามจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง แต่ทั้งคู่ ไหวตัวหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด ขณะที่นายจตุรงค์ มือปืนยิงสาวนักแฉยังสารภาพว่าเป็นผู้สังหารนายวรรธนะ หรือบุญลือ รุ่งเรือง โชเฟอร์แท็กซี่ อดีตคนขับรถ นพ. ไพศาล พยานปากสำคัญที่จะขึ้นให้การช่วยเหลือนางระวีวรรณในคดีที่มีเรื่องฟ้องร้องกับนายแพทย์คนดัง
 

ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ย.

พ.ต.ท. ภาคภูมิ พูลศิริโภคา พงส. (สบ 3) สน.ลาดพร้าว ได้เบิก ตัวนายจตุรงค์ จากห้องควบคุมออกมาสอบปากคำ ในประเด็นเกี่ยวกับคดีพยายามฆ่านางระวีวรรณ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 49 ขณะขับรถเก๋งนิสสัน ซันนี่ มีโอ สีดำ ผ่านมาทางแยกแฮปปี้แลนด์ แต่กระสุนพลาดถูกขอบประตูนางระวีวรรณจึงรอดชีวิตมาได้ ซึ่งนายจตุรงค์ ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว โดยอ้างว่าในช่วงดังกล่าวยังบวชเป็นพระภิกษุ ก่อนจะสึกออกมาตอนปลายเดือน พ.ย. และได้รับการติดต่อจากนายประกอบ ให้รับงานฆ่าคน โดยนายประกอบบอกว่า มือปืนคนแรกชื่อนายศักดิ์ ไม่ทราบนามสกุล ทำงานไม่สำเร็จ จึงมาจ้างตน งานแรกคือไปยิงนายวรรธนะเสียชีวิตในท้องที่ สน.บางซื่อ และงานต่อมาคือยิงนางระวีวรรณ เมื่อคืนวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา
 

ต่อมาเวลา 11.00 น.

ร.ต.ท.จีระเดช จันทร์อ่อน พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว คุมตัวนายจตุรงค์ไปฝากขังที่ศาลอาญาเป็นครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.-7 ต.ค.นี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน และรอผลตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

ทั้งนี้ คำร้องระบุว่า

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 50 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว รับแจ้งเหตุ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนางอภัสนันท์ ธิติโชติชัยปรีชา หรือนางระวีวรรณ เสตะรัต เสียชีวิตหน้าบ้านพักเลขที่ 295 หมู่บ้านฉัตรแก้ว ซอย 11 ถนนแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ได้ดำเนินการสอบสวนและขอออกหมายจับผู้ต้องหารวม 3 คน คือ 1. นายศักดา หรือเฮียดา เฮงสวัสดิ์ อายุ 32 ปี 2. นายจตุรงค์ หรือตึ๋ง เบ็ญกูล อายุ 24 ปี 3. นายกอบ ไม่ทราบนามสกุลจริง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2906-08/2550 ตามลำดับลงวันที่ 24 ก.ย. 50 ต่อมาวันที่ 24 ก.ย. 50 เวลาประมาณ 23.00 น เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายจตุรงค์ไว้ได้ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง และ พ.ร.บ. อาวุธปืน

โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
 

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดีมีความสลับซับซ้อน มีผู้ต้องหาหลายคน ถ้าให้ประกันตัวเกรงว่าอาจจะเสียหายต่อรูปคดี และอาจหลบหนีเนื่องจากเคยก่อเหตุหลายคดี และหากศาลอนุญาตให้ฝากขังแล้วพนักงานสอบสวนขอรับตัวผู้ต้องหากลับไปควบคุมไว้ที่ สน.ลาดพร้าว เพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ และสอบสวนขยายผลต่อไป ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังและรับตัวกลับได้ตามคำร้อง
 

ต่อมาเวลา 14.00 น.

หลังจากศาลมีคำสั่งให้ฝากขังและรับตัวกลับ พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ได้ ควบคุมตัวนายจตุรงค์ออกจากห้องเวรชั้นใต้ถุนศาลอาญา ในระหว่างควบคุมตัวไปขึ้นรถคุมขังของ สน.ลาดพร้าว ผู้สื่อข่าวถามนายจตุรงค์อีกครั้งว่า ยอมรับสารภาพหรือไม่ว่าเป็นคนลงมือยิงนางระวีวรรณ นายจตุรงค์ที่อยู่ในอาการเคร่งเครียด ตอบว่า ยิงจริง แต่ไม่อยากให้ตำรวจนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมจึงไม่ยอมทำแผน นายจตุรงค์บอกว่า ยังทำใจไม่ได้ แต่ถ้าเป็นคดีนายวรรธนะจะยอมไปทำแผน เพราะผ่านมานานแล้ว ก่อนถูกนำตัวกลับไปควบคุมที่ สน.ลาดพร้าว
ด้านการดำเนินคดีนายจตุรงค์ในข้อหาฆ่านายวรรธนะ หรือบุญลือ รุ่งเรือง โชเฟอร์แท็กซี่อดีตคนขับรถ นพ.ไพศาล ในช่วงสายวันเดียวกัน พ.ต.ท.อำพล บุญเพิ่ม รอง ผกก.สส.สน.บางซื่อ

ผู้รับผิดชอบสำนวนคดี เปิดเผยว่า

เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ได้ไปสอบปากคำนายจตุรงค์แล้ว ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง จึงให้ทางพนักงานสอบสวนไปขอหมายจับ พร้อมอายัดตัวไว้ดำเนินการในคดีนี้แล้ว
 

ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น.

พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รักษาการ ผบก.ป. กล่าวถึงคดีสังหารนางระวีวรรณ ว่า คดีนี้หลังจากมีการสืบสวนสอบสวนแล้วมีประเด็นเพิ่มคือ 1. เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไปมีประชาชนและผู้เกี่ยวข้องที่เกรงกลัวให้เบาะแสข้อมูลจำนวนมาก 2. จากการตรวจค้นตามสถานที่ต่างๆ รวม 14 แห่ง ได้พยานหลักฐานเพิ่มขึ้น และ 3. ตำรวจที่ทำคดีมีความเข้าใจเรื่องราวลึกซึ้งมากขึ้น เรื่องนี้ต้องให้เวลากับพนักงานสอบสวน ประเด็นที่มีการสงสัยว่าเรามีพื้นฐานซัดทอดถึงไหม มีพยานวัตถุอะไรบ้าง การสืบสวนสมัยใหม่จะมุ่งการใช้หลักฐานวิทยาศาสตร์ประยุกต์มากขึ้น ขั้นตอนต่อไปคือ เราต้องทำอย่างตรงไปตรงมา สอบสวนหมอและสรุปเรื่องว่า ใครผิดใครถูก ใครที่จะต้องออกหมายจับเพิ่มเติม ใครที่จะต้องนำตัวมาดำเนินคดี
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสามารถจับกุมนายศักดา เฮงสวัสดิ์ ได้แล้ว นายศักดาไม่ได้ซัดทอดถึงใคร ทางตำรวจจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเทคนิคการสืบสวนสอบสวนสมัยใหม่ สามารถระบุผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูก ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่พ้น เราจะต้องมีหลักฐานประกอบการอธิบายให้ศาลเข้าใจว่าการสอบสวนเป็นอย่างไร ทำให้ศาลเชื่อมั่น ตอนนี้เรากับผู้กระทำความผิดมีการเผชิญหน้า หายใจรดต้นคอกันอยู่ มีการพูดมีการเข้าไปหาพยานหลักฐาน ฝ่ายผู้กระทำผิดก็มีโอกาสหนีตลอด เหมือนกับหลายๆคดี แม้เขาจะปฏิเสธ แต่ท้ายที่สุดก็สามารถฟ้องร้องได้
 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หากนายจตุรงค์บิดพลิ้วกลับคำให้การ พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์กล่าวว่า

ไม่หนักใจประเด็นนี้สามารถนำการสอบสวนสมัยใหม่เข้ามาแก้ไขได้ เมื่อถามว่า เทคนิคใหม่มีอะไรบ้าง ผบก.ป. ตอบว่า เทคนิคที่ใช้ มีทั้งหมด 10 เรื่อง เราจะต้องนำเสนอให้ได้ตามแนวทางสอบสวน

ต่อข้อถามว่า หลักฐานที่ได้จากไบโอคลินิก สามารถเชื่อมโยงกับคดีได้มากแค่ไหน พ.ต.อ.พงศ์พัฒน์ กล่าวว่า

หลักฐานเหล่านี้เป็นหลักฐานทางฟิสิกส์ จะนำมาใช้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สำหรับนายศักดา เฮงสวัสดิ์ ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อเข้าพบพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้ต้องหายังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ และได้มีการประสานไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทุกแห่งแล้ว เพื่อป้องกันการหลบหนีของผู้ต้องหา
 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเสียชีวิตของนายชาญวิทย์ ชาญรัตนชัย คู่กรณีของไบโอคลีนิกอีกรายใน อ.หนองแค จ.สระบุรี มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ต้องหาหรือไม่ พ.ต.อ. พงศ์พัฒน์กล่าวว่า

ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ และยังไม่ตัดทิ้งในทุกประเด็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

ขณะนี้ชุดสืบสวนกองปราบปรามและ บช.น.ได้กระจายกำลังออกติดตามล่าตัวนายศักดา เฮงสวัสดิ์ และนายประกอบหรือหนึ่ง สีนาค โดยในส่วนของนายศักดา มีความเป็นไปได้ว่าอาจไปหลบซ่อนอยู่ในซุ้มมือปืนของอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ผู้หนึ่ง ในพื้นที่ภาคกลางตอนบน เนื่องจากรู้จักสนิทสนมกับอดีตบิ๊กตำรวจชั้นสูงคนนี้เป็นอย่างดี ส่วนนายประกอบ ชุดสืบสวนยังเชื่อว่า วนเวียนอยู่ระหว่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปจนถึงจังหวัดชลบุรี เนื่องจากพื้นเพเป็นคนจังหวัดชลบุรี และไม่มีเงินทุนในการหลบหนีไปไหนได้ไกล ทั้งนี้ นายประกอบคงไม่ไปอยู่กับนายศักดา เพราะตัวเองเป็นตัวกลางสำคัญเชื่อมโยงคดีต่างๆ ทำให้อาจถูกฆ่าตัดตอนได้
 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า

หลังจากนายจตุรงค์ สารภาพอย่างหมดเปลือก ว่าใช้ปืน .32 พร้อมเครื่องเก็บเสียงแบบไทยประดิษฐ์ที่นายศักดานำมาให้ ยิงนายวรรธนะ หรือบุญลือเสียชีวิต และรับค่าจ้างเป็นเงินสด 3.5 หมื่นบาทแล้ว นายศักดาสั่งให้นำปืนกระบอกดังกล่าวไปทำลายทิ้ง แต่นายจตุรงค์กลับนำอาวุธปืนไปขายให้กับคนรู้จักใน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นเงิน 8 พันบาท ประเด็นนี้ชุดสืบสวน กก. 1 ป. นำโดย พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ สายันต์ประเสริฐ รอง ผกก.1 บก.ป. ได้ติดตามเบาะแสจากคำให้การของนายจตุรงค์ กระทั่งสามารถยึดปืนกลับคืนมาได้ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ส่งตรวจสอบและรวบรวมเป็นพยานสำคัญในคดี
 
ส่วนคดีสังหารนางระวีวรรณ ชุดสืบสวนกองปราบฯ สามารถยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้า โนวา เทน่า สีแดง

ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่นายจตุรงค์ อ้างว่าเป็นพาหนะที่นายประกอบขับขี่พาหลบหนีได้แล้ว โดยนำไปจอดทิ้งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม.โดยยังมีกุญแจเสียบคาอยู่ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ส่วนอาวุธปืน 6.35 อยู่ระหว่างการติดตาม โดยนายจตุรงค์ให้การว่าคืนให้นายศักดาไปแล้ว
 

ส่วนการสอบสวนรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดี กับผู้ต้องหาทั้งสาม และการขยายผลไปยังผู้บงการที่อยู่เหนือขึ้นไปนั้น

สำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. ลงมากำกับดูแล เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญมีการร่วมกันกระทำผิดเป็นขบวนการ และมีความสลับซับซ้อนเชื่อมโยงกันหลายคดี โดย พล.ต.อ.พัชรวาท เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนทั้งในส่วนของนครบาลและกองปราบปราม เพื่อรายงานความคืบหน้า และวางแนวทางการสอบสวนรวบรวมหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมกองปราบปราม


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์