ร้องกองปราบไม่เชื่อพี่ชายฆ่าตัวตาย

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ร้องกองปราบไม่เชื่อพี่ชายฆ่าตัวตาย

น้องสาวร้องกองปราบคดีพี่ชายนักธุรกิจเสี่ยปุ๋ยเสียชีวิตไม่เชื่อเป็นการฆ่าตัวตาย

ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.บุหลัน (ขอสงวนนามสกุล) เข้าร้องต่อ พ.ต.ท.เอนก เตาสุภาพ สบ.3 กก.5 บก.ป. พนักงานสอบสวนให้ช่วยติดตามคดี นายจาตุรันต์ โรจน์เพียรสถิต อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย อยู่บ้านเลขที่ 19/9 หมุ่ 7 ต.บางกระสัน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบอาชีพ นักธุรกิจโรงงานปุ๋ยเคมีเรือใบไวกิ้ง ปุ๋ยรุ่งอรุณ และเป็นเจ้าของอู่แท็กซี่ ในพื้นที่ ต.ไร่ขิง เสียชีวิตภายในรถยนต์ ซึ่ง สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม คาดว่าน่าจะฆ่าตัวตาย

ภายในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นคัมรี่ สีขาว หมายเลขทะเบียน ณ-2031 กรุงเทพฯ จอดอยู่ โดยสภาพรถมีการติดเครื่องยนต์ และมีการเร่งเครื่องอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เปิดประตูด้านคนขับ พบว่าภายในรถมีชายเสียชีวิตนั่งอยู่ที่บริเวณที่นั่งคนขับ ขมับขวามีรอยถูกกระสุนปืน เลือดไหลทะลัก ส่วนขาขวาผู้ตายเหยียบคันเร่งคาอยู่ ส่วนบริเวณข้างซอกเบาะคนขับพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .32 ตกอยู่ 1 กระบอก มีกระสุนคารังเพลิง 5 นัด และปลอกกระสุนปืน 1 นัด จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน

น.ส.บุหลัน กล่าวว่า หลังจากไปแจ้งความไว้กับ ร้อยเวรที่ สภ.ไร่ขิง จนถึงปัจจุบันไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้คดีไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากญาติพี่น้องไม่เชื่อว่า นายจาตุรันต์ จะฆ่าตัวตาย แต่น่าจะมาจากการถูกฆาตกรรมมากกว่า

“พี่ชายมีธุรกิจทำสวนยางที่ประเทศลาว ทำร้านอาหาร คาร์แคร์ โต๊ะสนุ๊กเกอร์ หมู่บ้านจัดสรร แท็กซี่อีก 32 คัน และกำลังจะปลูกมะขามหวาน โดยพี่ชายต้องเปลี่ยนใช้รถเรื่อย เพราะมีคนคอยติดตาม และเคยมีคนขับรถปาดหน้าแล้วคว้ามีดลงมาจะทำร้าย” น.ส.บุหลัน กล่าว

น.ส.บุหลัน ยังกล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุมีโทรศัพท์มาหานายจาตุรันต์ ให้ออกไปข้างนอก จนกระทั่งมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว

“ตำรวจ สภ.โพธิ์แก้ว สันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย โดยใช้อาวุธปืน แต่ปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของคนงานชื่อชัยเชิด ที่เอามาจำนำไว้ ในราคา 5,000 บาท เพียง 1 วันก่อนเกิดเหตุ ทั้งนี้พี่ชาย ได้เคยไปไถ่ที่และปลูกบ้านให้ลูกชายของนายชัยเชิด ที่ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนเกิดเหตุไม่นานพี่ชายเห็นว่า ลูกชายของนายชัยเชิดเริ่มมีเงินแล้วก็เลยจะขอบ้านคืน ซึ่งลูกชายของนายชัยเชิดก็บอกว่าจะให้ ในขณะที่ไม่นานก่อนหน้านี้ลูกชายคนเล็กของนายชัยเชิดได้ถูกพี่ชายไล่ออกจากคาร์แคร์ เพราะปัญหาการทำงาน” น.ส.บุหลัน กล่าว

นอกจากนี้ น.ส.บุหลัน ยังตั้งข้อสงสัยอีกว่า สภาพศพของ นายจาตุรันต์มีบาดแผลที่ใบหน้า อีกทั้งยังเป็นคนที่กลัวผี จึงไม่น่าที่จะเข้าไปฆ่าตัวตายในวัด

“หลังจากคอยติดตามคดีโดยนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดและรูปภาพกับร้อยเวร สภ.โพธิ์แก้ว ที่รับเรื่อง ก็ดูเหมือนเขาไม่สนใจ ซึ่งดิฉันเสียเงินให้ไปแล้ว 2 หมื่นบาท ค่าตรวจเม่าดินปืนและใบชันสูตรศพ แต่คดีก็ไม่คืบหน้า” น.ส.บุหลันกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.เอนก กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องไว้และจะตรวจสอบเอกสารหลักฐานการชันสูตรศพ เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป