รวบได้ทันควัน มือฆ่ากิ๊กฝังดิน

แฉผัว-แค้นต้องฆ่า หนุ่มโต๊ะจีนยุ่งเมีย


รวบแล้วมือฆ่าฝังดินหนุ่มโต๊ะจีนนครปฐม ที่แท้เป็นผัวของหญิงสาวที่ตัวเองไปติดพัน สอบสวนผู้ต้องหาสารภาพหนุ่มโต๊ะจีนบุกไปทวงเมียถึงห้องนอน จึงบันดาลโทสะฟันด้วยมีดดับสยอง แล้วนำศพไปฝังอำพรางคดี เผยอยู่กินกับเมียสาวจนมีลูกด้วยกัน 2 คน ระยะหลังเมียไปทำงานเป็นสาวเสิร์ฟ จนไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหนุ่มโต๊ะจีนถึงกับขนเสื้อผ้าไปอยู่ด้วยกัน แต่เพราะความรักจึงให้อภัย ก่อนจะไปตามเมียกลับบ้าน แต่กิ๊กหนุ่มโต๊ะจีนตามมาทวงเมียถึงห้องนอนจึงฆ่าสยอง

จากกรณีพบศพชายถูกฆ่าฝังดินอยู่ในป่าละเมาะหลังบ้านร้าง หมู่ที่ 2 ต.มาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม ท้องที่สภ.ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม ทราบชื่อภายหลังว่านายวีรศักดิ์หรือเบิร์ด เผือกทุ่งใหญ่ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ม.6 ต.ทุ่งน้อย อ.เมือง จ.นครปฐม อาชีพพนักงานเสิร์ฟอาหารโต๊ะจีน ส่วนฆาตกรรายนี้คือนายหัสชัย หรือเต๋า พงษ์พากเพียร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/3 ม.7 ต.บ่อพลับ อ.เมือง จ.นครปฐม เพราะหลังก่อคดีแล้วโทรศัพท์มาแจ้งญาติผู้ตายให้ไปขุดศพ สาเหตุเบื้องต้นมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายออกไปกับน.ส.ประภาพร หรือติ๊ก ศรีนวล อายุ 21 ปี ภรรยาของนายหัสชัย ก่อนจะกลายเป็นศพ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น


"ขอมอบตัว ให้การทั้งน้ำตา"


ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพบศพฝังดินสยอง พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผบช.ภ.7 มอบหมายให้พล.ต.ต.สุชัย สุขพันธ์โพธาราม รองผบช.ภ.7 ซึ่งดูแลงานด้านปราบปราม ลงไปควบคุมดูแลการสืบสวนคดี ขณะเดียวกันพล.ต.ต.เกษม สังขพันธ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม สั่งการให้พ.ต.อ.วิรัช วัชรขจร พ.ต.อ.เพชรัตน์ แสงไชย รองผบก.ภ.จว.นครปฐม ลงไปร่วมควบคุมในการสืบสวนคดีนี้ และสืบสวนขยายผลจนทราบแน่ชัดว่า คนร้ายที่ลงมือก่อเหตุฆ่านายวีรศักดิ์ คือนายหัสชัย

และหลังก่อเหตุได้พาน.ส.ประภาพร ภรรยาสาวที่ไม่ได้จดทะเบียนกันหนีไปหลบอยู่ที่บ้านญาติในกทม. และนายหัสชัยให้ญาติโทรศัพท์ติดต่อมาที่ตำรวจว่าจะขอมอบตัว ซึ่งขณะเดียวกันทางพ.ต.ท.วิฑูรย์ พลาสาร รอง ผกก.หน.สภ.ต.สามควายเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม พ.ต.ท.สายัณต์ เพ็งบุญชู สวป. พ.ต.ท.สำเริง ศิลปะสำราญ พงส.(สบ.2)ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครปฐม แล้วเดินทางไปจับกุมตัวนายหัสชัยได้โดยละม่อม กล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พาตัวกลับมาสอบสวนปากคำที่จ.นครปฐม


"เปลี่ยนไป แอบมีกิ๊ก"


จากการสอบสวนนายหัสชัย ให้การรับสารภาพด้วยน้ำตาว่า ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่านายวีรศักดิ์แต่อย่างใด ตนกับน.ส.ประภาพร อยู่กินฉันสามีภรรยากันมาจนมีลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 3 ขวบเศษ คนเล็กอายุ 1 ขวบ ตนและภรรยาสาวช่วงที่ยังไม่มีลูกก็ช่วยกันทำงานในโรงงานฟอกย้อมผ้า พอมีลูกก็ให้ภรรยาอยู่บ้านดูแลลูก ช่วงหลังๆ การเงินรายได้ไม่ค่อยพอกับรายจ่าย ภรรยาจึงอาสาออกไปช่วยทำงานเสิร์ฟในร้านอาหาร หลังจากนั้นภรรยาก็เริ่มเปลี่ยนไป

ชอบเที่ยวเตร่กลางคืน จนตนจับได้ว่าแอบไปมีกิ๊กกับชายอื่นมาครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นตนให้อภัย ขอให้กลับมาดูแลลูก อยู่ได้ไม่นาน ภรรยาก็แอบมีกิ๊กอีกถึงขั้นแอบมาขนเสื้อผ้าไปอยู่กินด้วยกันที่บ้านของนายวีรศักดิ์ ตนทราบก็ไปขอร้องทั้งนายวีรศักดิ์และน.ส.ประภาพร เพื่อให้กลับมาดูแลลูก เพราะตนรักภรรยามากและสงสารลูกที่ยังเล็ก


"คิดฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่เมียห้ามไว้"


นายหัสชัย ให้การต่อไปว่า คืนเกิดเหตุขณะที่ตนกับภรรยากำลังหลับอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ นายวีรศักดิ์ มาเรียกตนกลางดึกเพื่อจะขอน.ส.ประภาพร กลับไปอยู่ด้วย ตนบอกว่าน.ส.ประภาพรไม่อยู่ แต่นายวีรศักดิ์ ไม่เชื่อได้ผลักประตูเข้ามาในห้องนอน โดยในมือมีไม้ท่อนยาวถืออยู่ เมื่อเห็นน.ส.ประภาพรนอนอยู่บนเตียง นายวีรศักดิ์ กลับไม่พอใจหาว่าตนโกหก และทำท่ายกไม้จะตี ตนจึงหันไปหยิบมีดฟันหญ้าหวดไปที่ศีรษะนายวีรศักดิ์ 2-3 ครั้งจนเสียชีวิต ขณะที่น.ส.ประภาพรเข้ามาห้ามแต่ช้าไป

"ครั้งแรกผมคิดจะฆ่าตัวตายหนีความผิด ด้วยการเอามีดมาจะปาดคอตัวเอง แต่เมียสาวเข้าห้ามไว้ จึงหันมาจัดการกับศพโดยเอาผ้าห่มมาห่อศพเหยื่อ แล้วเอาผ้าพันอีกชั้นและเอาถุงปุ๋ยมาสวมทับจัดการขุดหลุมที่หลังบ้านฝังศพ ก่อนจะไปขอเงินจากแม่ยาย และบอกเรื่องทั้งหมดให้ญาติของภรรยาทราบว่าฆ่าคนตายและฝังศพไว้ข้างบ้านร้างที่เช่าอยู่ จากนั้นพาภรรยาหลบไปอยู่กับญาติที่กทม. 1 คืน ก่อนที่จะให้ภรรยากลับมาดูแลลูกที่ฝากญาติไว้ และติดต่อญาติที่จ.นครปฐมว่าต้องการมอบตัว และตำรวจไปรับตัวมาดังกล่าว" นายหัสชัย กล่าว

"ชายอื่นให้ความสุขพาเที่ยวได้ แต่สามีให้ไม่ได้"


ด้านตำรวจหลังสอบปากคำพยานประกอบด้วยน.ส.ประภาพร นายสมนึก เผือกทุ่งใหญ่ อายุ 55 ปี บิดาของนายวีรศักดิ์ และพยานแวดล้อมคนอื่นๆแล้ว เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 ส.ค. พ.ต.ท.สำเริง ศิลปะสำราญ พงส.(สบ.2) พร้อมกำลังควบคุมตัวนายหัสชัย ไปทำแผนที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ขณะทำแผนมีชาวบ้านกว่า 50 คนมามุงดู

ด้านน.ส.ประภาพร กล่าวทั้งน้ำตาว่ารักทั้งสามีและลูก แต่ยอมรับว่าติดนิสัยชอบเที่ยวเตร่กลางคืน ชายอื่นสามารถให้ความสุขเรื่องการพาเที่ยวเตร่ได้ แต่สามีให้ไม่ได้ ซึ่งก่อนเกิดเรื่องร้ายนายวีรศักดิ์มาพูดตกลงให้ตนตัดสินใจว่าจะเลือกไปอยู่กับใคร ตนก็ตอบไปว่า หากจะให้เลือกใครสักคนตนไม่เลือกจะขออยู่อย่างนี้ ทำให้นายวีรศักดิ์ไม่พอใจ ตามมาจะพาตนกลับไปอยู่ด้วย กระทั่งเกิดเหตุสยองดังกล่าว


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์