2นาที..ชิงตัวแกนนำสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

2นาที..ชิงตัวแกนนำสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์


2นาที..ชิงตัวแกนนำ 'สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์'

  “ผมมาช่วยอาจารย์แล้ว รีบออกมา..” เสียงตะโกนจากชายนิรนามยังก้องในห้วงความทรงจำของ "สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์" แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เมื่อย้อนถึงวินาทีที่ชายนิรนาม 3 คน สวมหมวกคลุมใบหน้าสีดำ วิ่งฝ่าวงล้อมของตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ภายในรถควบคุมผู้ต้องขัง ซึ่งจอดอยู่ห่างจาก บริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประมาณ 25 เมตร

 ก่อนหน้านั้นไม่กี่นาที "สมเกียรติ" ได้ยินเสียงตำรวจปราบจลาจลระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเป็นช่วงๆ ต่อมาเสียงปืนดังครั้งละหนึ่งนัดและดังรัวหลายนัดซ้อนราว 5 นาที กระทั่งมีเสียงตะโกนว่าเจ้าหน้าที่ถูกยิงเข้าที่ศีรษะบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ส่วนเขาต้องหมอบลงบนพื้นรถ และตำรวจที่เฝ้าอยู่ท้ายรถวิ่งหลบไปอยู่บริเวณข้างรถฝั่งคนขับ ส่วนคนขับรถพยายามขับรถออกจากพื้นที่ แต่ไม่สามารถเคลื่อนรถออกไปได้ เนื่องจากมีรถตำรวจจอดขวางอยู่จำนวนมาก

 ทันใดนั้นเอง "สมเกียรติ" ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว มีควันสีดำฟุ้งกระจายอยู่กลางแนวกำลังตำรวจ บริเวณหน้าซอยวัดปรินายกวรวิหาร ทั้งตำรวจและมวลชนแตกตื่นวิ่งหนีกันอย่างโกลาหล แล้วจู่ๆ ก็มีชายนิรนาม 3 คน อายุประมาณ 35-40 ปี สวมหมวกสีดำคลุมใบหน้า เปิดกลอนประตูรถควบคุมผู้ต้องขังเข้ามา ชายคนหนึ่งตะโกนบอก “ผมมาช่วยอาจารย์แล้ว รีบออกมา” พร้อมกับดึงตัวออกมาจากรถ แล้วรีบนำเสื้อเกราะมาสวมให้ ส่วนอีก 2 คน ถือปืนคอยคุ้มกันอยู่ท้ายรถทั้งฝั่งซ้ายและขวา แล้วพาวิ่งกลับมาที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศอย่างทุลักทุเล เมื่อมาถึงบริเวณหน้าซอยวัดปรินายกวรวิหาร 1 ใน 3 ชายนิรนามถูกยิงเข้าที่ขาจนเสียหลักพากันล้มทั้ง 3 คน แต่ทุกคนรีบลุกขึ้น และนำตัวเขามาให้ทีมการ์ดของเวที กปท. แล้วชายนิรนามก็อันตรธานหายไป

 "สมเกียรติ" ยอมรับว่า ปฏิบัติการชิงตัวจากรถควบคุมตัวของตำรวจครั้งนี้ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ถือว่าเป็นการช่วยเหลือที่เร็วมาก จนไม่มีโอกาสได้ขอบคุณ และไม่มีโอกาสได้เห็นหน้า เชื่อว่าชายนิรนามที่มาช่วยเหลือต้องเป็นบุคคลที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี 

 "ตอนที่ผมถูกจับขังไว้ภายในรถควบคุมผู้ต้องขัง ผมคิดว่าคงถูกพาตัวไปที่ ตชด.ภาค 1 ก็ไม่ได้ตื่นกลัวอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการต่อสู้ อีกทั้งผมเคยเคลื่อนไหวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมานาน สามารถตอบคำถามเจ้าหน้าที่สอบปากคำได้ทุกคำถาม แต่สิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจมากที่สุด คือ ผมไม่คิดว่าจะมีใครมาช่วยเหลือผม" สมเกียรติ กล่าวด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งใจ

ทั้งนี้ "สมเกียรติ" ถูกตำรวจควบคุมตัว เนื่องจากเขาออกมาเจรจากับตำรวจปราบจลาจลว่า “อย่าทำลายทรัพย์สินเลย ให้เห็นแก่พ่อท่านโพธิรักษ์บ้าง” ซึ่งเวลานั้นสถานการณ์เริ่มตึงเครียด ตำรวจเริ่มเข้ามากระชับพื้นที่จนเกือบถึงหน้าเวทีปราศรัย โดยมีตำรวจ 3 นาย มาเจรจาด้วย และบอกว่า "ผมรู้จักอาจารย์ ขอโทษด้วยที่ต้องทำตามหน้าที่" จากนั้นมีนายตำรวจคนหนึ่ง เดินเข้ามาแล้วบอกว่า "ให้จับเลยคนนี้เป็นแกนนำ" ตำรวจทั้ง 3 นาย จึงจับมือเขาไพล่หลังแล้วใช้สายรัดพลาสติกสีดำรัดข้อมือทั้ง 2 ข้างติดกัน แล้วตรวจค้นกระเป๋าคาดเอวสีดำ และหยิบบัตรประชาชนออกมา แล้วพูดว่า "นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จริง เป็นแกนนำ กปท." จึงถูกควบคุมตัวไปที่รถควบคุมผู้ต้องขัง

ขณะที่นั่งอยู่ภายในรถ "สมเกียรติ" ยอมรับว่า สายที่รัดมือแน่นมากจนไม่สามารถขยับได้ จึงบอกว่า "ไม่หลบหนีหรอก..หิวน้ำมาก" ตำรวจจึงเอาน้ำมาให้ดื่ม ต่อมามีตำรวจอีกนายเข้ามาสอบถามว่า “อาจารย์ไม่ขัดขืน ไม่หลบหนีใช่มั้ย" จึงตอบกลับไปว่า "ไปที่ไหนก็ได้ที่ท่านจะพาผมไป” นายตำรวจนายนั้นตัดสินใจอยู่ราว 1 นาที จึงใช้คีมตัดสายรัดพลาสติก หลังจากนั้นราว 5 นาที สถานการณ์เริ่มตึงเครียดเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจและมวลชน มีเสียงปืนและเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว แล้วก็มีกลุ่มชายนิรนามจู่โจมเข้ามาช่วยเหลือออกไปได้!!

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์