ไทยติดอันดับ 13 คอร์รัปชั่นขนเงินออกนอกประเทศ
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น เผย ไทยติดอันดับ 13 ของประเทศที่ลักลอบนำเงินออกนอกประเทศจากการคอร์รัปชั่น เล็งสำรวจโครงการใหญ่ที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง
เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2556 นายธวัชชัย ยงกิตติกุล คณะกรรมการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กลุ่มรณรงค์สร้างความโปร่งใสทางการเงิน (จีเอฟไอ) ได้จัดเก็บข้อมูลการลักลอบนำเงินออกนอกประเทศกำลังพัฒนา 143 ประเทศ ในรอบ 10 ปี (2001 – 2010) พบว่า ประเทศไทยให้อยู่ในอันดับที่ 13 ที่มีการลักลอบนำเงินออกนอกประเทศ โดยช่วง 10 ปี พบว่าเป็นเงินรวมกว่า 2 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นปีละ 2 แสนล้านบาท ซึ่งรายงานนั้นได้ระบุชัดเจนว่า เงินเหล่านี้มาจากการคอร์รัปชั่น และการค้ายาเสพติด
ซึ่งเงินที่รั่วไหลเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าวิตกอย่างมาก เพราะหากนำเงินพวกนั้นมาสร้างโรงเรียนโดยใช้เงิน 5 แสนบาท ต่อ 1 โรงเรียน จะสามารถสร้างโรงเรียนได้ เกือบ 5 แสนโรงเรียน และยังจะสามารถนำมาขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการ หากเราไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ประเทศไทยอาจมีปัญหาที่หนักหน่วงกว่านี้ ซึ่งเราจะต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยอาศัยความร่วมมือในทุกภาคส่วน
อย่างไรก็ตาม นายธวัชชัย ยังกล่าวอีกว่า จากการสำรวจการลักลอบนำเงินออกนอกประเทศนั้น พบว่า 10 อันดับแรก มีประเทศที่อยู่ในทวีปเอเชีย 5 ประเทศ ดังนี้
อันดับที่ 1 จีน
อันดับที่ 3 มาเลเซีย
อันดับที่ 6 ฟิลิปปิน
อันดับที่ 8 อินเดีย
อันดับที่ 9 อินโดนีเซีย
โดยในปี 2010 ประเทศในเอเชียมีการลักลอบนำเงินออกนอกประเทศรวมกันกว่า 62.3 % ของเงินที่ถูกลักลอบจากประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมด และประเทศในอาเซียน (ไม่รวมสิงคโปร์) คิดเป็น 7.8 % ของเงินลักลอบทั้งหมด
ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย ) กล่าวว่าแผนงานในปี 2556 ว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น มีแผนที่จะตรวจสอบความโปรง่ใส่ของโครงการก่อสร้างที่มีมูลค่าโครงการที่สูงมาก อย่างในโครงการลงทุนพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท และแผนการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่มีการลงทุนที่สูง และอาจเป็นช่องทางให้เกิดการคอร์รัปชั่น