เอพีรายงานวันที่ 12 ก.ย. ว่า สหรัฐอเมริกาตกเป็นเป้าหมายการโจมตีครั้งใหญ่ในภูมิภาคอาหรับ
ถึงขั้นเอกอัครราชทูตถูกสังหาร ในวันครบรอบ 11 ปี เหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ 2544 หรือ 9/11 เหตุสะเทือนขวัญที่สุดเกิดในประเทศลิเบีย เมื่อกลุ่มติดอาวุธบุกสถานกงสุลสหรัฐ ในเมืองเบงกาซี สมรภูมิสำคัญในสงครามกลางเมืองโค่นอำนาจพ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อปีก่อน สังหารนายคริสโตเฟอร์ สตีเวนส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำลิเบีย พร้อมด้วยนาวิกโยธินสหรัฐอีก 3 นาย
โดยนายสตีเวนส์และเจ้าหน้าที่ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์จากสถานทูตสหรัฐ กรุงตริโปลี มายังเมือง เบงกาซี เพื่อช่วยอพยพเจ้าหน้าที่สถานกงสุล แต่กลับเคราะห์ร้ายถูกลูกหลงของจรวดอาร์พีจีที่ยิงใส่อาคาร ซึ่งแหล่งข่าวความมั่นคงของลิเบียระบุเพิ่มเติมว่านายสตีเวนส์เสียชีวิตเพราะสำลักควันไฟ
นายอับเดลโมโนเอ็ม อัล-ฮอร์ โฆษกคณะกรรมาธิการความมั่นคงกระทรวงมหาดไทยลิเบีย เปิดเผยว่า
ผู้ประท้วงในลิเบียซึ่งมีกลุ่มซาลาฟิสต์ ใช้จรวดอาร์พีจียิงเข้าไปในสถานกงสุลสหรัฐเมือง เบงกาซี ก่อนจะดึงธงชาติอเมริกาทิ้ง ปล้นทรัพย์สิน และจุดไฟเผาอาคาร
นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐ แถลงเบื้องต้นว่า
ใจสลายกับความสูญเสีย และขอประณามการกระทำของม็อบมุสลิม พร้อมเร่งประสานงานเพื่อส่งความช่วยเหลือไปยังพลเมืองอเมริกันในลิเบียแล้ว ส่วนประธานาธิบดีบารัก โอบามา ร่วมกล่าวประณามเหตุครั้งนี้เช่นกัน
ต้นตอของเหตุโจมตีร้ายแรงในลิเบียครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีคลิปภาพยนตร์เรื่องอินโนเซนส์ ออฟ มุสลิมส์
ซึ่งนายแซม เบซิล วัย 52 ปี ชาวอียิปต์เชื้อสายอิสราเอล สัญชาติอเมริกัน อำนวยการผลิตและกำกับ เผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ภาพยนตร์กล่าวถึงอิสลามว่าเหมือนกับ 'มะเร็ง' และเป็นศาสนาแห่งความเกลียดชัง โดยคลิปตัวอย่างบนยูทูบมีเนื้อความว่า ศาสดามูฮัมหมัด เป็นคนจอมปลอม เจ้าชู้ และเสียสติ ทั้งยังมีภาพนักแสดงกำลังร่วมเพศ และปลุกระดมให้สาวกก่อสงคราม ถือเป็นการลบหลู่เบื้องสูง ทำให้ชาวมุสลิมโกรธแค้นอย่างกว้างขวาง
ขณะเดียวกันที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ กลุ่มผู้ประท้วงส่วนใหญ่เป็นผู้นับถืออิสลามสายเคร่ง บุกเข้าไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐในกรุงไคโร ปลดธงชาติสหรัฐลงมาทำลายและติดธงของฝ่ายอิสลามแทนที่ ท่ามกลางบรรยากาศโกรธแค้น โดยมีสาเหตุเช่นเดียวกับที่เกิดในลิเบีย
ด้านนายเบซิล ผู้สร้างหนังปมปัญหาครั้งนี้ ซึ่งมีที่พำนักในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ ต้องหลบซ่อนตัวเพื่อความปลอดภัย แต่ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า หนังที่สร้างขึ้นเป็นหนังการเมือง และเป็นการต่อสู้ทางความคิด