ในขณะเดียวกันครอบครัวของอาร์มสตรองออกมาขอร้องให้ผู้คนทั่วโลกเก็บทุกความทรงจำถึงความสำเร็จของอดีตมนุษย์อวกาศผู้ล่วงลับเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
นีล อาร์มสตรอง
สำหรับอาร์มสตรองเกิดที่เมืองวาปาโคเนต้า ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ปี 1930 โดยเขามีความหลงใหลในเรื่องการบินตั้งแต่ยังเด็กและได้ศึกษาเรื่องการขับเครื่องบินตั้งแต่อายุ 15 ปี ก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตนักบินในวันเกิดครบรอบอายุ 16 ปี นอกจากนี้ในฐานะนักบินประจำกองทหารเรือสหรัฐฯ อาร์มสตรองได้บินใน 78 ภารกิจในสงครามเกาหลีในช่วงปี 1950-1953 อีกด้วย
หลังจากนั้น 2 ปี อาร์มสตรองก็ได้เข้ามาร่วมงานกับคณะกรรมการที่ปรึกษาศิลปศาสตร์การบินแห่งชาติ (NACA) ที่ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (NASA) ในปี 1958 โดยในฐานะนักบินวิจัยของนาซ่าเขาได้บุกเบิกทดลองบินเครื่องบินความเร็วสูงมากมายรวมถึงโมเดลเครื่องบินต่างๆ อีกมากกว่า 200 แบบทั้งเฮลิคอปเตอร์, เครื่องร่อน, เครื่องบินเจ็ต และจรวด
ในปี 1962 อาร์มสตรองก้าวขึ้นมาเป็นนักบินอวกาศได้สำเร็จ และได้รับการมอบหมายให้ไปดำเนินภารกิจ เจมินี่ 8 ที่เขาสามารถจอดยาน 2 ลำบนอวกาศได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเกษียณตัวเองในอีก 9 ปีต่อมา โดยเขาใช้เวลาเป็นอาจารย์สอนเรื่องวิศวกรรมด้านยานอวกาศที่มหาวิทยาลัยซินซินเนติเป็นเวลาเกือบ 1 ทศวรรษ แถมยังเคยทำหน้าที่เป็นรองผู้บริหารด้านประสานงานฝ่ายการศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบหรือสร้างเครื่องบินที่ศูนย์บัญชาการของนาซ่าอีกด้วย
นอกจากนี้อัลดรินยอมรับว่าเขาหวังไว้ว่าตัวเอง, อาร์มสตรอง และคอลลินส์ วางแผนว่าจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในปี 2019 ในงานฉลองครบรอบ 50 ปีสำหรับความสำเร็จของภารกิจเหยียบดวงจันทร์ของอพอลโล 11 น่าเสียดายที่มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว นีลจะไปร่วมงานกับเราที่นั่นอย่างแน่นอนในฐานะดวงวิญญาณ ผมจะคิดถึงนีล เพื่อนของผม เนื่องจากผมรู้ว่าประชาชนร่วมชาติและผู้คนรอบโลกจะคิดถึงผู้บุกเบิกด้านการบินอวกาศที่สำคัญที่สุดคนนี้แน่นอน