วันที่ 30 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่กินพื้นที่หลายรัฐทางภาคเหนือของอินเดีย
ไม่ว่าจะเป็นกรุงนิวเดลี และแคว้นแคชเมียร์ หรือเขตพำนักอาศัยของทะไล ลามะในเทือกเขาหิมาลัย ทำให้ประชาชนประมาณ 370 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ นับว่าเป็นกรณีไฟฟ้าขัดข้องที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าสิบปีของอินเดีย
รายงานระบุว่าระบบสายส่งไฟฟ้าหยุดทำงานช่วงตี 2 ประชาชนจำนวนมากตื่นขึ้นกลางดึก
ท่ามกลางอากาศร้อนจัดเพราะพัดลมและเครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน ประกอบกับเป็นช่วงหน้าร้อนของอินเดียอีกด้วย พอถึงรุ่งเช้าก็ยังไม่มีไฟฟ้า รถไฟ รถไฟใต้ดิน และไฟจราจรในเมืองใหญ่หลายแห่งรวมทั้งกรุงนิวเดลีหยุดทำงาน สร้างความปั่นป่วนอย่างมาก ต่อมาไฟฟ้าเริ่มกลับมาใช้ได้ร้อยละ 60 ตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าเป็นต้นไป
ด้านสนามบินและโรงพยาบาลในเมืองต่างๆ ใช้ระบบไฟสำรองตลอดเวลาที่ไฟฟ้าดับ หลังประสบเหตุไฟฟ้าขัดข้องบ่อยครั้ง
หน่วยงานหรือธุรกิจที่สำคัญของอินเดียจึงมีระบบไฟสำรองไว้ใช้งานในยามฉุกเฉินอยู่เสมอ บ้านเรือนของผู้มีฐานะหลายครอบครัวก็มีเครื่องปั่นไฟขนาดย่อมไว้ในบ้านด้วย
ทางการอินเดียคาดว่าสาเหตุไฟฟ้าขัดข้องครั้งนี้เป็นเพราะระบบสายส่งไฟฟ้าทำงานหนักเกินไป
และรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุครั้งนี้ แต่รายงานระบุว่าอินเดียประสบปัญหาผลิตไฟฟ้าไม่พอกับความต้องการมาตลอด โดยเฉลี่ยประเทศอินเดียใช้ไฟเกินปริมาณที่ผลิตได้ประมาณร้อยละ 12 ทำให้เกิดเหตุไฟฟ้าดับบ่อยครั้ง ซึ่งภาคอุตสาหกรรมวิจารณ์ว่าเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และแสดงถึงความล้าหลังในด้านสาธารณูปโภคของอินเดียที่มิได้เติบโตตามการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ บ้านเรือน 1 ใน 3 ของอินเดียอาศัยอยู่ในเขตยากจนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้อีกด้วย