เกาะคิวชู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นเสี่ยงถูกซ้ำเติมด้วย"ไต้ฝุ่นขนุน" หลังจากเกิดน้ำท่วมใหญ่เพราะฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ จนมีผู้เสียชีวิตและสูญหายแล้ว 32 คน
ไต้ฝุ่นขนุนกำลังกระหน่ำหมู่เกาะอามามิ ทางใต้ของเกาะคิวชู ซึ่งใน 4 วันที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักและดินถล่ม ทำให้ประชาชนนับแสนต้องละทิ้งบ้านเรือน
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นแจ้งว่า ไต้ฝุ่นขนุนมีความเร็วลมสูงสุด 108 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนที่ไปทางตะวันตกค่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะพัดผ่านฝั่งตะวันตกของเกาะคิวชู
กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนด้วยว่า พื้นที่ทางเหนือของเกาะคิวชูอาจมีฝนตกมากถึง 15 ซม.ในช่วง 24 ชั่วโมง จนถึงเวลา 18.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น แม้ว่าช่วงเช้าวันนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีฝนตกก็ตาม
ส่วนที่อำเภอมินามิอะโซ จังหวัดคุมาโมโตะ ซึ่งเป็นจุดที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุด
ประชาชน 700 คนยังไม่สามารถกลับบ้านได้เพราะเกรงจะเกิดดินถล่ม เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ได้เริ่มซ่อมแซมถนนที่เสียหายแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ต้องซ่อมและหยุดเป็นพัก ๆ เพราะเกรงจะเกิดดินถล่มจากฝนที่ยังตกเป็นครั้งคราว และถึงแม้ว่าพยากรณ์อากาศคาดว่าไต้ฝุ่นขนุนจะไม่พัดถล่มโดยตรง ก็ยังน่าเป็นห่วงว่าจะเกิดความเสียหายอีกหรือไม่
หน่วยกู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่เมืองอาโสะ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟ ที่เชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่ของผู้ที่ยังคงหายสาบสูญ ทำให้ผู้เสียชีวิตเฉพาะที่เมืองอาโสะเพียงเมืองเดียงเพิ่มขึ้นเป็น 20 คนแล้ว
ขณะเดียวกันพื้นที่อื่น ๆ ของญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นเพราะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า
กรุงโตเกียวอาจมีอุณหภูมิสูง 34 องศาเซลเซียส ส่วนเมืองคุมางายะ ทางเหนือของกรุงโตเกียว อาจมีอุณหภูมิสูงถึง 37 องศาเซลเซียส โดยเมื่อวันจันทร์ พบชายชราเสียชีวิตแล้วหนึ่งคนที่จังหวัดนิงาตะ สันนิษฐานว่าเกิดจากเป็นลมแดด และมีคนเข้าโรงพยาบาลเกือบ 700 คน เพราะเพลียแดด