ปธน.ซาร์โกซี ของฝรั่งเศส แพ้เลือกตั้งปธน.รอบแรกเมื่อวันที่ 22 เม.ย. และส่อเค้าแพ้อีกในการเลือกตั้งรอบสองเดือนหน้า และการผลัดผู้นำในฝรั่งเศสครั้งนี้อาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจในยุโรป
23 เม.ย. 55 นายฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้สมัครจากพรรคสังคมนิยม ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก ตามคาดด้วยคะแนนฉิวเฉียดราว 28.61% ขณะที่ประธานาธิบดีซาร์โกซีได้ 27.08% และนางมารีน เลอ แปง ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนน 18.05% ทำให้มีเพียงนายออลลองด์และซาร์โกซี ผู้ที่ได้คะแนนเสียงมากที่สุด 2 อันดับแรกจากบรรดาผู้สมัครทั้งหมด 10 คนจะต้องไปชิงชัยกันในการเลือกตั้งรอบสองวันที่ 6 พ.ค.
การเลือกตั้งครั้งนี้มีจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งคึกคักเกินคาดมากถึงราว 81% และเป็นเหมือนการลงประชามติต่อผลงานของซาร์โกซี ในภาวะที่ชาวฝรั่งเศสกังวลต่อปัญหาอัตราว่างงานสูง และเศรษฐกิจอ่อนแอ
นายออลลองด์ วัย 57 ปี ที่เคยสร้างความกังวลให้กับตลาดเงินด้วยการหาเสียงไว้ว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายของภาครัฐ ประกาศเมื่อคืนวานว่าเขาจะมุ่งลดภาระหนี้สินจำนวนมหาศาล กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ และสร้างเอกภาพภายในชาติ
ขณะที่ประธานาธิบดีซาร์โกซี ประกาศต่อผู้สนับสนุนว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะมอบหมายให้ใครรับผิดชอบบริหารประเทศไปอีก 5 ปี และเขาอยากให้จัดการประชันวิสัยทัศน์ 3 ครั้งก่อนการเลือกตั้งรอบสอง ซึ่งจะแบ่งเป็นรอบประเด็นเศรษฐกิจ สังคม และนโยบายต่างประเทศ
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีที่ลงสมัครเลือกตั้งอีกสมัย พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งรอบแรกนับจากปี 2501 และสถานการณ์ของซาร์โกซีอาจเลวร้ายกว่านั้น เพราะผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดขึ้นทันทีหลังการเลือกตั้งรอบแรกปรากฏว่า ผู้สนับสนุนของผู้สมัครที่พ่ายแพ้ในรอบแรกจะหันไปเทคะแนนให้ผู้ชนะรอบแรกในการเลือกตั้งรอบสอง
และมีแนวโน้มว่านายออลลองด์จะชนะการเลือกตั้งรอบตัดเชือกด้วยคะแนนทิ้งห่างมากขึ้นเป็น 54.5% ขณะที่นายซาร์โกซีจะได้เพียง 45.5% และนางเลอ แปงจะเป็นตัวแปรสำคัญต่อผลการเลือกตั้งรอบสอง ซึ่งเธอบอกว่าจะประกาศจุดยืนว่าจะสนับสนุนผู้สมัครคนใดในวันที่ 1 พ.ค. ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทิศทางว่าผู้สนับสนุนของเธอจะลงคะแนนให้ใคร แต่โพลล์คาดว่า ผู้สนับสนุนของเธอราว 48% จะเลือกซาร์โกซี แต่อีก 31% จะเลือกอองลองด์