วันนี้ ( 2 มี.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า
ปริมาณฝนที่ตกหนักที่สุดในรอบหลายสิบปีในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ของออสเตรเลีย ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นสูงและไหลเชี่ยว เป็นเหตุให้หลายพื้นที่ในรัฐได้รับความเสียหาย ทางการต้องออกคำสั่งให้ประชาชนกว่า 1,600 คน อพยพออกจากที่อยู่อาศัยเป็นการด่วน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นอกจากนี้ พายุฝนที่ตกกระหน่ำไม่หยุด ยังทำให้เขื่อน วาร์ราแกมบา
ซึ่งเป็นเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในซิดนีย์ จำเป็นต้องระบายน้ำออก ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบได้รับความเสียหายหนัก โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของซิดนีย์ ได้รับคำเตือนไม่ให้สัญจรท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงรับน้ำจากเขื่อนดังกล่าว ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่รอบนอกซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ก็ได้รับคำเตือนให้ยกของขึ้นที่สูง โดยเฉพาะในเมืองแบเทิสต์ เพราะกระแสน้ำอาจไหลเข้าท่วมพื้นที่ภายในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนว่า อาจมีฝนตกหนัก และพายุฝนฟ้าคะนอง
โดยเฉพาะในพื้นที่ตอนกลาง และฝั่งตะวันตก เช่น ในเมืองมุดกี และดับโบ ขณะที่ในเมืองโกลด์เบิร์น ควีนบียาน และวินด์เซอร์ สถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้น อย่างไรก็ตาม พายุฝนที่ยังคงตกหนักทั่วไป อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงได้ภายใน 24 ชั่วโมง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา.