เมื่อ 30 พ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา
เดินทางถึงกรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่าแล้ว ตามกำหนดการเยือนอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นการเยือนพม่าโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี และถือเป็นพัฒนาการทางการเมืองครั้งสำคัญของพม่าที่พยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก อีกทั้งยังแสดงความพร้อมที่จะเปิดประเทศมากกว่าในอดีตที่ผ่านมา
วันเดียวกัน รัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนออกแถลงการณ์เป็นเชิงกล่าวเตือนมหาอำนาจจากตะวันตก ว่า
จีนยืนยันจะไม่ให้ผลประโยชน์ในพม่าต้องถูกคุกคาม ถึงจีนไม่คัดค้านพม่าที่ต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์กับชาติตะวันตก แต่จีนไม่อาจยอมรับได้ถ้าต้องแลกมาด้วยผลประโยชน์ของจีนต้องถูกเหยียบย่ำ
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศผู้สนับสนุนรัฐบาลทหารพม่ามาอย่างยาวนาน
แต่ล่าสุดพม่าสร้างความประหลาดใจต่อทางการจีนด้วยผลจากการปฏิรูป เช่น สั่งหยุดโครงการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ที่จีนให้การสนับสนุน ทำให้คาดเดากันว่าพม่าจะเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศที่เข้าหาตะวันตกมากขึ้น
ทางด้านนางคลินตันประกาศเมื่อต้นเดือนว่า จะไปประเมินด้วยตนเองว่าพม่าจริงใจในการปฏิรูปเพียงใด
หลังจากปล่อยนางออง ซาน ซู จี แกนนำฝ่ายค้านจากการกักบริเวณในบ้านพัก และยุติการปกครองด้วยระบอบทหารเปลี่ยนมาใช้ระบอบรัฐบาลพลเรือน โดยนางคลินตันมีกำหนดพบทั้งประธานาธิบดีเต็ง เส่งและนางซู จี ที่นครย่างกุ้ง
ขณะที่ซูซานเน่ ดีมักจิโอ หัวหน้าแผนกศึกษานโยบายพม่าของกลุ่มเอเชียโซไซตีในนิวยอร์ก กล่าวว่า การเยือนของนางคลินตัน เป็นความพยายามของสหรัฐที่จะตรวจสอบอิทธิพลของจีนนั่นเอง