
เกิดอะไรขึ้นที่เนปาล?สรุปรวดเดียวจบ อ่านเลยที่นี่!

เกิดอะไรขึ้นที่เนปาล ? เพจดัง Poetry of Bitch ได้สรุปประเด็นความวุ่นวาย การประท้วงที่ประเทศเนปาลระบุว่า
- Nepo Kids Trend
- แบนโซเชียล = ฟางเส้นสุดท้าย
- ม็อบ Gen Z
- เหตุการณ์บานปลาย
- ไล่กระทืบนักการเมือง
- เผาทั้งเป็น
- เราจะสร้างชาติใหม่แบบไหน ถ้าเริ่มต้นจากการไร้มนุษยธรรม ?
-----
Nepo Kids Trend
:
1- ต้นเดือนกันยายน 2025 เกิดเทรนด์ Nepo Kids ขึ้นในโลกออนไลน์ของประเทศเนปาล
Nepo มาจากคำว่า Nepotism หมายถึงระบบอุปถัมภ์ที่เอื้อประโยชน์ให้กับเครือญาติ และ Nepo Kids ในที่นี้หมายถึงลูกหลานนักการเมืองเนปาล
2- เทรนด์นี้เกิดจากชาวเนปาลจำนวนมากว่างงาน เศรษฐกิจฝืดเคือง ผู้คนอดอยาก และปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน แต่ลูกหลานนักการเมืองกลับอวดชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยในโซเชียลฯ ไม่หยุด
3- จึงกลายมาเป็นความโกรธแค้นของผู้คน มีการทำคลิปเปรียบเทียบภาพประชาชนที่ปากกัดตีนถีบ กับภาพลูกหลานนักการเมืองขับรถหรู สวมนาฬิกาแพงระยับ หิ้วกระเป๋าแบรนด์เนม และไปเที่ยวต่างประเทศ
4- เทรนด์นี้เดือดมาก และเป็นไวรัลในโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม ทำเอาลูกหลานนักการเมืองแห่ลบบัญชีโซเชียลทิ้งหรือไม่ก็ตั้งค่าเป็นส่วนตัว-----
แบนโซเชียล = ฟางเส้นสุดท้าย
:
5- วันที่ 4 กันยายน รัฐบาลเนปาลสั่งแบนโซเชียลมีเดียยอดนิยม 26 แพลตฟอร์ม เช่น เฟซบุ๊ก, ไอจี, ยูทูบ, X, WhatsApp, Reddit, Snapchat ฯลฯ
6- รัฐบาลอ้างว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ยอมลงทะเบียนตามกำหนด และเป็นแหล่งแพร่เฟคนิวส์ สร้างความเกลียดชัง ยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งในสังคม
7- เนปาลมีประชากร 30 ล้านคน ในจำนวนนี้ 17 ล้านคนใช้โซเชียลมีเดีย พวกเขาจึงมองว่ารัฐบาลกำลังพยายามปิดปากประชาชน และปิดกั้นเสรีภาพในการสื่อสาร
8- ประกอบกับปัญหาอื่น ๆ ที่หมักหมมมานาน ทั้งทุจริตคอร์รัปชัน ความเหลื่อมล้ำ ความยากจน คนว่างงาน การแบนโซเชียลฯ จึงกลายเป็น ‘ฟางเส้นสุดท้าย' ให้ชาวเนปาลลุกฮือ-----
ม็อบ Gen Z
:
9- วันที่ 8 กันยายน กลุ่มวัยรุ่นคนหนุ่มสาวที่เรียกตัวเองว่า "Gen Z" (เจนซี) รวมตัวประท้วงตามเมืองต่าง ๆ โดยเฉพาะในกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาล และยื่นข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ
◾️ ยกเลิกการแบนโซเชียลมีเดีย
◾️ ยุติการทุจริตคอร์รัปชัน
-----
เหตุการณ์บานปลาย
:
11- แต่รัฐบาลสลายชุมนุมด้วยวิธีรุนแรง ใช้แก๊สน้ำตา รถฉีดน้ำแรงดันสูง และกระสุนยาง จนเกิดการปะทะกัน แล้วยังยิงกระสุนจริงใส่ผู้ชุมนุม ทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 คน บาดเจ็บกว่า 300 คน บางคนเสียชีวิตในชุดนักเรียน ทำให้ผู้คนโกรธแค้นอย่างมาก
12- เมื่อเหตุการณ์บานปลาย เช้าวันที่ 9 กันยายน รัฐบาลก็ประกาศยกเลิกการแบนโซเชียลฯ นายกรัฐมนตรี นายเคพี ชาร์มา โอลี (KP Sharma Oli) ประกาศลาออกแล้วหนีไปต่างประเทศ รัฐมนตรีอีกหลายคนก็ลาออกตาม ทำให้เนปาลตกอยู่ในภาวะสุญญากาศทางการเมือง
13- แต่การลาออกไม่สามารถหยุดยั้งความโกรธแค้นของประชาชนได้ และคราวนี้คนที่ไม่ใช่ Gen Z ก็ออกมาร่วมชุมนุมด้วย จนผู้จัดงาน Gen Z เองก็เอาไม่อยู่
14- ฝูงชนที่เดือดดาลบุกเผาสถานที่ต่าง ๆ เช่น รัฐสภา ศาลฎีกา พรรคการเมือง และบุกเรือนจำ 2 แห่ง แล้วปล่อยนักโทษ 900 คนออกมา ในขณะเดียวกันก็มีกลุ่มอาชญากรฉวยโอกาสปล้นสะดมและปล้นธนาคาร-----
ไล่กระทืบนักการเมือง
:
15- ผู้ชุมนุมบุกเผาบ้านของนักการเมืองหลายคน หนึ่งในนั้นคือ นายเชอร์ (Sher Bahadur Deuba) อายุ 79 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี และภรรยา นางอาร์ซู (Arzu Rana Deuba) อายุ 63 ปี รัฐมนตรีต่างประเทศ
16- ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปในบ้านและทำร้ายทั้งคู่จนเลือดไหลอาบ แต่ผู้ชุมนุมบางคนไม่เห็นด้วยกับการทำร้ายร่างกายและพยายามปกป้อง ในที่สุดก็ช่วยพาสองสามีภรรยาส่งตัวให้ทหารได้สำเร็จ
17- ผู้ชุมนุมยังวางเพลิงโรงแรมฮิลตัน ซึ่งเป็นโรงแรมห้าดาวในกาฐมาณฑุด้วย เพราะเชื่อว่าลูกชายของนายเชอร์เป็นหุ้นส่วน และเผาโรงเรียนที่นางอาร์ซูเป็นเจ้าของ (ผู้ประท้วงอ้างว่าครอบครัวนี้คือหนึ่งในนักการเมืองที่ทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุด)
18- นายพิษณุ (Bishnu Prasad Paudel) รัฐมนตรีคลังวัย 65 ปี ถูกผู้ประท้วงไล่ล่าไปตามท้องถนน เขาพยายามวิ่งหนีแต่โดนจับตัวได้ และถูกจับแก้ผ้าแห่กลางเมือง แล้วบังคับให้เดินลงไปในแม่น้ำ มีคนเดินตามเพื่อทุบตี
19- กองทัพส่งเฮลิคอปเตอร์เข้ามาช่วยลำเลียงนักการเมืองทั้ง 3 คนออกไปได้สำเร็จ สื่อระบุว่าบางคนรีบบินออกนอกประเทศทันที-----
เผาทั้งเป็น
:
20- แต่ที่กลายเป็นโศกนาฏกรรมและสร้างประเด็นถกเถียงที่สุด คือการที่ผู้ชุมนุมบุกไปที่บ้านของนายจาลา (Jhala Nath Khanal) อดีตนายกรัฐมนตรีอีกคน แต่เขาไม่อยู่บ้าน21- ผู้ชุมนุมจับภรรยาของเขา นางราชยาลักษมี (Rajyalaxmi Chitrakar) ขังไว้ในบ้านแล้วจุดไฟเผา เมื่อทหารมาถึงเธอก็ถูกไฟคลอกอาการสาหัสแล้ว และไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
-----
เราจะสร้างชาติใหม่แบบไหน ถ้าเริ่มต้นจากการไร้มนุษยธรรม ?
:
22- เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ประชาชนเสียงแตก คนที่เคยสนับสนุนผู้ประท้วงเริ่มไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง บางคนเตือนสติ และบางคนก็ประณาม
23- "การปล่อยอาชญากร ทำร้ายร่างกาย เผาคนอื่นทั้งเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนทั้ง 22 คนของเราต้องการ เรากำลังทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์หวาดกลัว โปรดหยุดใช้ความรุนแรง นี่ไม่ใช่สิ่งที่ Gen Z ยืนหยัดต่อสู้ เป้าหมายของเราคือการปลดปล่อยเนปาลจากผู้นำที่ทุจริต
การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงไม่ได้เกิดจากความรุนแรง แต่เกิดจากกฎหมาย ความรับผิดชอบ และการสร้างระบบที่ดี เรากำลังจะสร้างชาติใหม่แบบไหนกัน ถ้าเราเริ่มต้นจากการไร้มนุษยธรรม" นี่คือหนึ่งในคำเตือน24- ล่าสุด นายรามจันทรา (Ram Chandra Poudel) ประธานาธิบดีเนปาล และกองทัพต่างก็ออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น ไม่ใช้ความรุนแรง และแก้ไขวิกฤตด้วยการเจรจา
-





เครดิตแหล่งข้อมูล :เพจ PoetryofBitch,ThaiNepalTravels-เที่ยวเนปาล
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว