แฮร์ริสรับ เป็น ‘ไก่รองบ่อน’ ซัดทรัมป์ ‘แก่-ประหลาด’
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก แฮร์ริสรับ เป็น ‘ไก่รองบ่อน’ ซัดทรัมป์ ‘แก่-ประหลาด’
นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครตหลังจากไบเดนถอนตัว ออกมายอมรับว่า เธอเป็นไก่รองบ่อนในศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐปลายปีนี้
การออกมายอมรับสถานะดังกล่าวของแฮร์ริสสวนทางกับการสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตต่อเธอที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนมีการระบุว่า เธอได้รับคะแนนสนับสนุนเพียงพอสำหรับการเสนอชื่อเป็นตัวแทนพรรคเพื่อชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้ว ขณะที่ผลสำรวจหลายสำนักชี้ว่า แฮร์ริสหายใจรดต้นคอทรัมป์เข้ามาเรื่อยๆ และทำให้ช่องว่างของความนิยมระหว่างทรัมป์ ตัวแทนผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันกับไบเดนที่เคยเป็นหดแคบลงเรื่อยๆ
แม้แฮร์ริสจะยอมรับสถานะที่ยังเป็นรอง แต่เธอก็ซัดทรัมป์ขณะร่วมงานระดมทุนหาเสียงที่เมืองฟิตส์ฟิลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ด้วยการบอกว่า ทรัมป์ไม่เพียงแค่แก่แต่ยังเป็นคนที่แปลกประหลาดมาก โดยรอยเตอร์ระบุว่า การที่แฮร์ริสใช้คำว่าประหลาดในการอธิบายถึงตัวทรัมป์ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หาเสียงใหม่ของพรรคเดโมแครต
ระหว่างการรณรงค์หาเสียงในสัปดาห์นี้ แฮร์ริส วัย 59 ปี ได้เปรียบเทียบภูมิหลังของเธอในฐานะอัยการกับประวัติของทรัมป์ที่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา และกล่าวว่าการเสนอตัวเพื่อเป็นประธานาธิบดีสหรัฐของเธอเป็นเรื่องของอนาคต ในขณะที่ทรัมป์ วัย 78 ปี ต้องการนำพาประเทศสหรัฐกลับไปสู่อดีตอันมืดมน
ทรัมป์ได้ออกมาตอบโต้กลับในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โดยโจมตีแฮร์ริสอย่างหนักในการหาเสียงที่รัฐมินนิโซตาว่า แฮร์ริสจะทำลายประเทศสหรัฐ พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์แฮร์ริสในประเด็นต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ความปลอดภัยสาธารณะไปจนถึงการโยกย้ายถิ่นฐาน
ทรัมป์กล่าวว่า ถ้าพวกเสรีนิยมสุดโต่งแบบแฮร์ริสเข้ามา ความฝันแบบอเมริกันก็จะตาย พร้อมบอกด้วยว่า แฮร์ริสนั้นแย่ยิ่งไปกว่าไบเดนเสียอีก การแสดงท่าทีล่าสุดของทรัมป์และการหันกลับมาใช้การโจมตีคู่ต่อสู้แบบเผ็ดร้อน ทำให้ภาพของผู้เรียกร้องความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติของทรัมป์หลังถูกลอบสังหารหายไปอย่างรวดเร็ว
"ผมอยากเป็นคนดี พวกเขาทุกคนพูดว่าคิดว่าผมเปลี่ยนไปแล้ว แต่ไม่เลย ผมไม่ได้เปลี่ยนไป บางที่ผมอาจจะแย่ลงยิ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ" ทรัมป์กล่าว