สหรัฐเต้น! เวียดนามเตรียมปูพรมรับ ‘ปูติน’ เยือนฮานอย

สหรัฐเต้น! เวียดนามเตรียมปูพรมรับ ‘ปูติน' เยือนฮานอย ซัดไม่ควรให้ใช้เป็นเวที หนุนสงคราม

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ทางการเวียดนามหลายรายเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย จะเดินทางเยือนกรุงฮานอยของเวียดนาม เป็นเวลา 2 วัน ระหว่างวันที่ 19-20 มิถุนายนนี้ โดยผู้นำรัสเซียจะเข้าพบปะหารือกับประธานาธิบดีโตเลิม และคณะผู้นำระดับสูงคนอื่นๆ ของเวียดนาม

นอกจากนี้ เป็นที่คาดหมายว่าประธานาธิบดีปูตินจะประกาศความตกลงร่วมมือในภาคส่วนต่างๆ ระหว่างกันรวมถึงด้านการค้า การลงทุน เทคโนโลยีและการศึกษาด้วย

ข่าวการเดินทางเยือนฮานอยดังกล่าวของปูติน ที่มีขึ้นหลังจากเวียดนามได้หลีกเลี่ยงที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสันติภาพยูเครนที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ได้ส่งรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของเวียดนามไปร่วมการประชุม BRICS ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วนั้น ถูกมองว่าเป็นสิ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความสัมพันธ์แนบแน่นและความภักดีของเวียดนามที่มีต่อรัสเซีย แต่ได้จุดความไม่พอใจให้กับสหรัฐอเมริกา มหาอำนาจขั้วตรงข้าม ที่เพิ่งยกระดับความสัมพันธ์กับเวียดนามไปในปีที่แล้วและถือเป็นคู่ค้าอันดับต้นๆ ของเวียดนาม ให้ออกมาส่งเสียงตำหนิเวียดนามอย่างรุนแรงในทันที

โดยโฆษกของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงฮานอยกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ไม่มีประเทศใดควรให้ปูตินมีเวทีในการส่งเสริมการทำสงครามรุกรานและอีกนัยหนึ่งยอมให้ปูตินทำให้การกระทำอันโหดร้ายของเขากลายเป็นเรื่องปกติ

"หากเขาสามารถเดินทางได้อย่างอิสระ ก็อาจทำให้การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้งของรัสเซียกลายเป็นเรื่องปกติได้" โฆษกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐกล่าว โดยอ้างถึงการทำสงครามรุกรานยูเครนของปูตินที่เปิดฉากขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2565 ในขณะที่ปูตินยังคงเป็นบุคคลที่ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ออกหมายจับมาตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2566 ในข้อกล่าวหาก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน

ด้านกระทรวงต่างประเทศของเวียดนามยังไม่ได้ตอบสนองใดๆ ต่อการขอความเห็นในเรื่องนี้

สหภาพยุโรป (อียู) อีกคู่ค้าสำคัญของเวียดนาม ก็ยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อข่าวการเยือนเวียดนามของปูติน แต่ในเดือนที่แล้วอียูได้ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของเวียดนามที่ชะลอการประชุมกับทูตพิเศษของอียูว่าด้วยเรื่องการคว่ำบาตรรัสเซียออกไป

เอียน สตอรีย์ นักวิจัยอาวุโสประจำสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak ในสิงคโปร์ กล่าวให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า จากมุมมองของเวียดนาม การเยือนครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าเวียดนามดำเนินนโยบายต่างประเทศที่สมดุลซึ่งไม่สนับสนุนมหาอำนาจใด หลังจากที่ก่อนหน้านี้เวียดนามได้เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนมาแล้วเมื่อไม่กี่เดือนก่อน