จับตาราชวงศ์อังกฤษ หลังกษัตริย์ชาลส์ที่ 3 ประชวร
คิงชาลส์ประชวรมะเร็งชนิดใด?
ในแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังเมื่อวันจันทร์ (5 ก.พ.) ไม่ได้ระบุเจาะจงชนิดของมะเร็งที่กษัตริย์ประชวร หรือระบุว่าอาการประชวรวิกฤติมากเพียงใด แต่แหล่งข่าวในราชวงศ์เผยกับรอยเตอร์ว่า ไม่ใช่มะเร็งต่อมลูกหมาก ขณะที่สำนักพระราชวังระบุเพียงว่า คิงชาลส์ได้เริ่มเข้ารับการรักษาตามปกติแล้ว และในช่วงเวลานี้พระองค์ยังคงสามารถทรงงานกิจการของรัฐและงานเอกสารราชการได้ตามปกติ"พระองค์ทรงเลือกที่จะแบ่งปันผลการวินิจฉัยของพระองค์เพื่อป้องกันการคาดเดา และหวังว่าจะช่วยให้สาธารณชนเข้าใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งทั่วโลก" สำนักพระราชวังบักกิงแฮม ระบุในแถลงการณ์
รายงานพระอาการประชวรของคิงชาลส์เกิดขึ้นหลังจากแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์และพระชายาเจ้าชายวิลเลียม ผู้สืบราชบัลลังก์อังกฤษ พักฟื้นร่างกายที่บ้าน หลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 2 สัปดาห์ เนื่องจากเข้ารับการผ่าตัดช่องท้องที่ทางการไม่ได้ระบุรายละเอียดอาการป่วย แต่ไม่เกี่ยวข้องกับมะเร็ง
หากคิงชาลส์ไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่ปรึกษาแห่งรัฐสามารถได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในนามกษัตริย์แทนได้ โดยที่ปรึกษาแห่งรัฐจะได้รับอนุญาตปฏิบัติหน้าที่ราชการส่วนใหญ่ของกษัตริย์ รวมถึงการประชุมองคมนตรี การลงนามเอกสารประจำ และการต้อนรับเอกอัครราชทูตคนใหม่ แต่ไม่สามารถแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีหรือยุบรัฐสภาได้ เว้นแต่กษัตริย์ทรงอนุญาตให้ทำ
ที่ปรึกษาแห่งรัฐได้รับการคัดเลือกจากกลุ่มราชวงศ์ ซึ่งรวมทั้งคู่สมรสของกษัตริย์ และราชวงศ์ในสายสืบราชสันตติวงศ์ที่มีอายุมากกว่า 21 ปี
สำหรับลำดับผู้สืบราชสันตติวงศ์ของอังกฤษมีทั้งหมด 24 ลำดับ ซึ่ง 4 อันดับแรกคือเจ้าชายวิลเลียม มกุฎราชกุมาร รองลงมาเป็นเจ้าชายจอร์จ เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายลูอิส แห่งเวลส์
อาการประชวรเกิดขึ้นเมื่อใด?
สหราชอาณาจักรรายงานปัญหาสุขภาพแรกของกษัตริย์ชาลส์ในเดือน ม.ค. เมื่อสำนักพระราชวังบักกิงแฮมประกาศว่า พระองค์เริ่มเข้ารับการรักษาอาการต่อมลูกหมากโต แม้อาการประชวรไม่รุนแรง แต่พระองค์ยกเลิกการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และได้รับคำแนะนำให้พักผ่อนก่อนเข้ารับการรักษาทั้งนี้ ต่อมลูกหมากโต เป็นโรคที่เกิดขึ้นปกติในผู้ชายอายุมากกว่า 50 ปี และอังกฤษมีผู้ป่วยโรคนี้หลายพันคน อาการของโรคจะส่งผลต่อระบบปัสสาวะ แต่ไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพ ต่อมลูกหมากโตไม่ใช่มะเร็ง และไม่ใช่ความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก
ความเคลื่อนไหวผู้นำโลก
ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีอังกฤษส่งจดหมายอวยพรคิงชาลส์ ขอพระองค์ฟื้นจากอาการประชวรในเร็ววัน"ผมมั่นใจว่าพระองค์จะทรงกลับมามีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงดีอีกครั้ง และผมเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศหวังให้พระองค์หายดี" ซูแน็ก กล่าว
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐก็ร่วมอวยพรว่า "การวินิจฉัย การรักษาและการรอดพ้นจากโรคมะเร็ง ต้องใช้ความหวังและความกล้าหาญอย่างยิ่ง จิลและผมขอร่วมกับประชาชนในสหราชอาณาจักร อำนวยพรให้พระองค์ฟื้นจากอาการประชวรได้อย่างสมบูรณ์ในเร็ววัน"
ส่วนอดีตประธานาธบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวถึงกษัตริย์ชาลส์ว่า "คิงชาลส์ บุคคลแสนพิเศษที่ผมรู้จักดีในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี พระองค์ประชวรด้วยโรคมะเร็ง เราจึงขออวยพรให้พระองค์ฟื้นพระวรกายได้อย่างสมบูรณ์และรวดเร็ว"
ขณะที่จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ร่วมส่งคำอวยพรแด่คิงชาลส์ว่า "ผมได้ตระหนักถึงการเข้ารับการรักษามะเร็งของกษัตริย์ชาลส์ที่ 3 เช่นเดียวกับประชาชนชาวแคนาดาทั้งประเทศ และผู้คนทั่วโลก เราขอส่งคำอวยพรให้พระองค์ และหวังให้พระองค์ฟื้นจากอาการประชวรได้อย่างสมบูรณ์"
แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย อวยพรว่า "ประชาชนออสเตรเลียทุกคนอยู่เคียงข้างกษัตริย์ชาลส์และพระบรมวงศานุวงศ์ เราขอให้พระองค์ฟื้นพระวรกายอย่างสมบูรณ์ในเร็ววัน ผมจะส่งข้อความไปยังสำนักราชวังในเช้านี้ (6 ก.พ.) และเราหวังว่าพระองค์จะฟื้นจากอาการประชวรได้อย่างรวดเร็ว และกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้"
ด้านไมเคิล ฮิกกินส์ ประธานาธิบดีไอร์แลนด์ เผยว่า ตนเป็นห่วงมาก และขอส่งความปราถนาดีอย่างสุดซึ้งในนามของประชาชนชาวไอร์แลนด์แด่กษัตริย์ชาลส์ในการเข้ารับการรักษา และขอให้พระองค์ฟื้นพระวรกายได้อย่างสมบูรณ์ รวมถึงขอให้สมเด็จราชินีคามิลลาและพระบรมวงศานุวงศ์มีพลานามัยแข็งแรง