สหรัฐยิงขีปนาวุธ สอยร่วงบอลลูนสายลับจีน ล้ำน่านฟ้า
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก สหรัฐยิงขีปนาวุธ สอยร่วงบอลลูนสายลับจีน ล้ำน่านฟ้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ว่า
กองทัพสหรัฐออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการส่งเครื่องบินขับไล่เอฟ-22 จากฐานทัพอากาศในเมืองแลงก์ลีย์ ที่รัฐเวอร์จิเนีย ปล่อยขีปนาวุธจากอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้จากอากาศสู่อากาศ แบบติดตามความร้อน "เอไอเอ็ม-9เอ็กซ์" ทำลายวัตถุต้องสงสัยเป็นบอลลูนสอดแนมของจีน ระหว่างกำลังลอยตัวอยู่นอกชายฝั่งรัฐเซาท์แคโรไลนา เมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวแสดงความยินดีกับทุกฝ่าย ซึ่งปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ได้อย่างสำเร็จลุล่วง ขณะที่พล.อ.ลอยด์ ออสติน รมว.กระทรวงกลาโหมสหรัฐ แถลงว่า ปฏิบัติการดังกล่าว "เป็นไปตามกฎหมาย" ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประเมินแล้วว่า ความเสี่ยงการเกิดอันตรายต่อประชาชนจะอยู่ในระดับต่ำสุด จึงตัดสินใจดำเนินการ
ทั้งนี้ การยิงบอลลูนเกิดขึ้นในเขตน้ำตื้นของรัฐเซาท์แคโรไลนา และตอนนี้กองทัพกำลังติดตามเก็บชิ้นส่วนทั้งหมด ซึ่งในเบื้องต้นมีการประเมินว่า กระจายออกไปเป็นรัศมีไกลประมาณ 10 กิโลเมตร
ข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงของสหรัฐระบุว่า วัตถุต้องสงสัยดังกล่าวปรากฏตัวในเขตน่านฟ้าของสหรัฐเป็นครั้งแรก ที่รัฐอะแลสกา เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นเคลื่อนตัวเข้าสู่น่านฟ้าของแคนาดา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา แล้วกลับเข้าสู่น่านฟ้าของสหรัฐอีกครั้ง ที่รัฐไอดาโฮ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ต่อจากนั้น วัตถุเคลื่อนตัวผ่านแผ่นดินของสหรัฐตลอด ไม่ผ่านทะเล ทำให้ยากแก่การยิง
นอกจากนี้ การที่บอลลูนเคลื่อนผ่านฐานทัพอากาศ มาล์มสตรอม หนึ่งในฐานทัพนิวเคลียร์แห่งสำคัญของสหรัฐ ซึ่งเก็บหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 150 หัว ที่รัฐมอนแทนา เพิ่มความวิตกกังวลให้กับฝ่ายความมั่นคง
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนยืนยันว่า วัตถุ ที่รัฐบาลวอชิงตัน "สงสัยและกล่าวหา" ว่าเป็น "บอลลูนสอดแนม" ของรัฐบาลปักกิ่ง ลอยตัวอยู่ในเขตน่านฟ้าของสหรัฐ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา "คือเรือเหาะเก็บข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา" และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "เป็นอุบัติเหตุซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้" พร้อมทั้งตำหนิอีกฝ่าย "ตื่นตระหนกเกินกว่าเหตุ" ทว่านายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ยกเลิกกำหนดการเยือนจีนในช่วงต้นเดือนนี้แล้ว.
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น