ไฟเซอร์ชี้ฉีดวัคซีนครบ3เข็ม ภูมิคุ้มกันเพิ่ม25เท่าต้านโอมิครอนได้

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 แชนแนลนิวส์เอเชียรายงานว่า ไบออนเทคและไฟเซอร์เผยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 สูตรฉีด 3 เข็ม ของไฟเซอร์/ไบออนเทค สามารถต้านสายพันธุ์โอไมครอนได้ โดยอ้างข้อมูลจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ นอกจากนี้ยังระบุว่าสามารถส่งมอบวัคซีนต้านโอไมครอนได้ในเดือนมีนาคม 2565 หากจำเป็น

ในคำแถลงอย่างเป็นทางการฉบับแรกจากผู้ผลิตวัคซีนทั้งสองบริษัท ระบุว่า การฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทค 2 เข็ม ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโอมไครอนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่การฉีดวัคซีนเข็ม 3 จะเพิ่มภูมิคุ้มกันมากขึ้น 25 เท่า

จากการตรวจสอบเลือดที่ได้จากผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็ม 3 เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่ามีภูมิคุ้มกันสายพันธุ์โอไมครอนพอ ๆ กับเลือดของผู้ที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม เพื่อต่อสู้กับไวรัสสายพันธุ์ดั้งเดิมที่พบครั้งแรกในจีน

"อัลเบิร์ต บูร์ลา" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไฟเซอร์ กล่าวในแถลงการณ์ว่า "การให้ผู้คนจำนวนมากฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแรก และฉีดเข็ม 3 เพื่อกระตุ้น ยังคงเป็นแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19"

แม้ว่าความจำเป็นยังคงไม่ชัดเจน แต่ทั้งสองบริษัทระบุว่า พวกเขาจะพยายามนำวัคซีนป้องกันโควิดสายพันธุ์โอไมครอนออกสู่ตลาด หลังจากพวกเขาได้เริ่มต้นพัฒนาวัคซีนทันทีที่มีรายงานการพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ ที่ก่อให้เกิดความกังวลในหมู่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน

ส่วนแผนผลิตวัคซีน 4,000 ล้านโดสในปี 2565 คาดว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง หากจำเป็นต้องพัฒนาวัคซีนต้านโอไมครอน

ผลวิจัยนี้สอดคล้องกับผลวิจัยเบื้องต้นที่ตีพิมพ์โดยนักวิจัยในแอฟริกาใต้ ซึ่งระบุว่า โอไมครอนสามารถหลบเลี่ยงการป้องกันบางส่วนจากวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทคได้ในกรณีที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม นอกจากนี้ยังมีการแนะนำว่าการฉีดวัคซีนเข็ม 3 อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อได้

อย่างไรก็ตาม การวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการที่เยอรมนี พบว่าการตอบสนองของภูมิคุ้มกันโอไมครอนจะลดลง หลังจากฉีดเข็ม 3 ไปแล้ว

สองบริษัทพันธมิตรด้านวัคซีนในสหรัฐฯและเยอรมนี ยังมองแง่ดีว่าวัคซีนของพวกเขาจะสามารถป้องกันอาการร้ายแรงจากสายพันธุ์โอไมครอนได้ แม้ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการจะไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้

"ไฟเซอร์และไบออนเทคเชื่อว่าบุคคลที่ได้รับการฉีดวัคซีนอาจได้รับการปกป้องจากโรคร้ายแรง" แถลงการณ์ระบุ