ผู้นำเกาหลีใต้เตรียมออกมาตรการ ห้ามบริโภคเนื้อสุนัข อย่างจริงจัง

วันนี้ (27 ก.ย. 64) นางปาร์ค คยอง-มี (Park Kyung-mee) โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ออกมาแถลงว่า ประธานาธิบดีมุน แจอิน ได้พูดถึงเรื่องนี้หลังเข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรี คิม บู-คยอม (Kim Boo-kyum) เกี่ยวกับความพยายามในการแก้ไขปรับปรุงการจัดการสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง โดยย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการพิจารณามาตรการสั่งห้ามทานเนื้อสุนัขอย่างจริงจังในเกาหลีใต้

ซึ่งนี่นับเป็นครั้งแรกที่ผู้นำเกาหลีใต้ได้หยิบยกประเด็นนี้มาพูดถึงอย่างจริงจัง ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดการถกเถียงในสังคมอย่างแพร่หลาย ขณะเดียวกัน บรรดาผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ก็ได้หยิบยกเรื่องนี้มาเป็นนโยบายหาเสียง

อย่างเช่น นาย อี แจ-มยอง (Lee Jae-Myung) ผู้ว่าการจังหวัดคยองกีและหนึ่งในผู้รับสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี จากพรรคของประธานาธิบดีมุน ก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะผลักดันมาตรการนี้ แต่ทางด้านนายยุน ซอก-ยอล (Yoon Seok-youl) ผู้นำฝ่ายค้านระบุว่าการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นสิทธิส่วนบุคคล

ปัจจุบัน สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเกาหลีใต้ แต่ก็ยังมีประชาชนบางกลุ่ม โดยเฉพาะ ผู้สูงอายุ ที่ยังคงรับประทานเนื้อสุนัขอยู่ ซึ่งทางด้านกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ ได้พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลสั่งปิดร้านอาหารและตลาดที่ยังคงขายเนื้อสุนัข

ทั้งนี้ ผลสำรวจของ "อะแวร์ (Aware)" ซึ่งเป็นกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ ระบุว่า มีผู้ตอบแบบสำรวจอย่างน้อย 78% ต้องการให้รัฐบาลสั่งห้ามการผลิตและจำหน่ายเนื้อสุนัขและแมว ขณะที่อีก 49% สนับสนุนให้รัฐบาลห้ามการบริโภค

ส่วนผลสำรวจของบริษัท "เรียลมิเตอร์ (Realmeter)" พบว่าประชาชนยังคงมีความคิดเห็นแตกต่างกันในเรื่องนี้ แม้จะมีประชาชน 59% สนับสนุนให้รัฐบาลออกกฎหมายห้ามฆ่าสุนัขเพื่อการบริโภคของมนุษย์