ช็อก!! ทริปมรณะ เน็ตไอดอลสาวกลายเป็นศพหลังถูกเเฟนหนุ่มตบ

ซีเอ็นเอ็น รายงานคดีอาชญากรรมที่อยู่ในความสนใจของชาวอเมริกันอย่างต่อเนื่อง จากการเป็นไอดอลสาวดาวดัง หายตัวไป ไม่โพสต์ภาพหรือข้อความใดๆ กระทั่งถูกพบเป็นศพ ขณะที่แฟนหนุ่มผู้น่าสงสัยหายตัวไปเช่นกัน

คดีนี้เริ่มจาก สาวแก็บบี เปติโต วัย 22 ปี ผู้ที่คนในสังคมโลกออนไลน์รู้จักดีในฐานะนักเดินทางด้วยรถแวนสีขาว ใช้ชีวิตไปกับแฟนหนุ่ม ชื่อ ไบรอัน ลอนดรี อายุ 23 ปี ทั้งสองเดินทางจากนิวยอร์กไปทั่วฝั่งตะวันตกของสหรัฐ โดยมักโพสต์คลิปและภาพให้แฟนๆ ติดตาม ขึ้นแฮชแท็กว่า #vanlife

แต่หญิงสาวกลับหยุดโพสต์ประมาณปลายเดือน ส.ค. จากนั้นแฟนหนุ่มขับรถกลับมาบ้านในรัฐฟลอริดาเมื่อวันที่ 1 ก.ย. โดยไม่มีเปติโตนั่งมาด้วย ครอบครัวของหญิงสาวพยายามสอบถามแต่ไม่ได้ความใดๆ จึงไปแจ้งลูกสาวหายตัวเมื่อวันที่ 11 ก.ย.

นับจากนั้นมา เรื่องราวของดาวไอจีก็ดังไปทั่วประเทศ นักสืบไซเบอร์หลายคนช่วยกันแกะรอยตามหาทางออนไลน์ และมีคนติดตามอย่างคับคั่ง เฉพาะโซเชียลติ๊กต็อก มีผู้คนเฝ้าตามคลิปเกี่ยวกับการหายไปของคู่รักคู่นี้กว่า 500 ล้านวิว

การคลี่คลายคดีดังกล่าวยังจุดประกายให้คนทั้งประเทศหันมาสนใจเรื่องคนหายมากขึ้น ซึ่งศูนย์ข้อมูลอาชญากรรมแห่งชาติระบุว่าเมื่อสิ้นปี 2563 มีคนหายเกือบ 90,000 คดี

สำหรับคดีของเปติโตและลอนดรี มีเจ้าหน้าที่ปูพรมค้นหาใกล้อุทยานแห่งชาติและขยายพื้นที่การค้นหาทั้งสองคน กระทั่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ก.ย. เจ้าหน้าที่พบศพที่เชื่อว่าเป็นเปติโตในบริเวณตั้งแคมป์ในป่าสงวนแห่งชาติบริดเจอร์-เททัน รัฐไวโอมิง ขณะที่ยังคงค้นหานายลอนดรีต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ก.ย. การค้นหาหยุดชะงัก เนื่องจากเจ้าหน้าที่เหนื่อยล้าเกินไป ช่วงเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสำนักงานสอบสวนกลาง หรือ เอฟบีไอ เข้าค้นบ้านของพ่อแม่ของนายลอนดรี ที่เมืองนอร์ทพอร์ต รัฐฟลอริดา ตามหมายค้นเพื่อหาข้อมูลเชื่อมโยงกรณีน.ส.เปติโตเสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เชิญพ่อแม่ออกจากบ้านระหว่างที่ค้นบ้านและเก็บสิ่งของหลายอย่างภายในบ้านไปตรวจสอบ รวมทั้ง ลากรถฟอร์ด มัสแตงไปด้วย ก่อนที่จะเชิญเข้าบ้านอีกครั้งเพื่อสอบปากคำ แต่พ่อแม่ไม่ยอมเปิดปากพูดและกล่าวว่าจะให้ข้อมูลกับทนายของฝ่ายตนเท่านั้น

เจ้าหน้าที่รัฐยูทาห์เปิดเผยว่ามีพลเมืองดีโทรศัพท์สายด่วนแจ้งว่าพบเห็นการทะเลาะกันของหนุ่มสาวคู่นี้ในรถแวนสีขาว ป้ายทะเบียนรัฐฟลอริดา เมื่อพลเมืองดีขับผ่านไปก็เห็นผู้ชายตบผู้หญิง จากนั้น ทั้งคู่วิ่งลงไปข้างทาง ฝ่ายชายดันฝ่ายหญิงไปข้างหน้าแล้วขึ้นรถ ก่อนที่ตำรวจจะเข้าระงับเหตุ

 

ลำดับเหตุการณ์

ท็อด แกร์ริสัน ผู้บัญชาการตำรวจนอร์ทพอร์ตกล่าวว่า 2 หนุ่มสาวเริ่มออกเดินทางในเดือน มิ.ย. โดยวางแผนเที่ยวอุทยานแห่งชาติในรัฐฝั่งตะวันตกของประเทศ ซึ่งเปติโตมักจะเล่าเรื่องราวการเดินทางให้ครอบครัวและคนอื่นๆ ทราบผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งเธอมักจะติดต่อหาคนในบ้านระหว่างการเดินทาง แต่การติดต่อยุติลงปลายเดือน ส.ค. ต่อมา วันที่ 12 ส.ค. เริ่มมีข้อมูลว่ามีพลเมืองดีโทรศัพท์แจ้งตำรวจว่าพบเห็นผู้ชายกับผู้หญิงทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายในรัฐยูทาห์

ตำรวจที่เขียนรายงานกล่าวว่าเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาท แต่ไม่ได้แจ้งข้อหาใครเพราะประเมินแล้วสถานการณ์ไม่น่าจะรุนแรงถึงขั้นเป็นความรุนแรงในครอบครัว แต่ห่วงเรื่องจิตใจมากกว่า

วันที่ 24 ส.ค. เปติโตเฟซไทม์หรือพูดคุยแบบเห็นหน้ากันทางออนไลน์กับแม่และกล่าวว่ากำลังจะออกจากรัฐยูทาห์เพื่อไปอุทยานแห่งชาติเททันในไวโอมิง

ต่อมา วันที่ 27 ส.ค. ครอบครัวยื่นคำร้องต่อศาลขอให้ตรวจสอบฮาร์ดไดรฟ์ของลูกสาว หลังจากได้รับข้อความแปลกๆ ว่า "คุณช่วยสแตนได้ไหม หนูได้รับข้อความเสียงและมีสายที่ไม่ได้รับ" ซึ่งเปติโตหมายถึงปู่ที่ชื่อสแตน แต่ลูกสาวไม่เคยเรียกปู่ด้วยชื่ออย่างนี้ ทำให้แม่เอะใจว่าอาจเกิดสิ่งผิดปกติกับลูกและใจไม่ดีเพราะระหว่างเดินทาง ลูกสาวเคยกล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคู่หมั้นเริ่มตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ

 

จากนั้น ครอบครัวได้รับข้อความสุดท้ายในวันที่ 30 ส.ค. ว่า "ไม่มีบริการในโยเซมิตี" ซึ่งครอบครัวยังสงสัยว่าลูกสาวเป็นคนส่งข้อความหรือไม่ หลังจากได้รับข้อความดังกล่าว โทรศัพท์ของเปติโตใช้งานไม่ได้อีกเลยและหยุดโพสต์ทุกอย่างเกี่ยวกับการเดินทางในสื่อออนไลน์ซึ่งครอบครัวคิดว่าลูกสาวน่าจะอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแกรนด์เททันในรัฐไวโอมิงซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่ติดต่อกับทางบ้าน

ส่วนอีกเบาะแสหนึ่งที่สำคัญ คือ คลิปที่เจนและไคลี เบอธูน ยูทูเบอร์ ถ่ายด้วยกล้อง GoPro เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ขณะขับรถผ่านรถที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นรถของเปติโตและลอนดรีจอดอยู่ใกล้กับที่ตั้งแคมป์อุทยานแห่งชาติบริดเจอร์-เททันในรัฐไวโอมิง