กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
ผวา!สายพันธุ์เอปซิลอน เริ่มระบาดในปากีสถาน - หมอชี้ต้องเร่งฉีดวัคซีนหวั่นเข้าไทย
หน่วยงานด้านสาธารณสุขในแคว้นปัญจาบของปากีสถาน ออกคำเตือนพบผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์ ‘เอปซิลอน' จำนวน 5 รายในเมืองลาฮอร์ ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหม่ซ้ำเติมสถานการณ์โรคระบาดในประเทศแห่งนี้
สื่อท้องถิ่นของปากีสถานรายงานอ้างข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ตัวกลายพันธุ์เอปซิลอนนั้นเชื่อกันว่ามีขีดความสามารถในการต่อต้านวัคซีนสูง และถือเป็นภัยคุกคามตัวใหม่สำหรับประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้ว เพราะอาจจะกลับมาติดเชื้อได้อีก
ผู้เชี่ยวชาญยังพบว่า โควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอนที่พบในเมืองลาฮอร์แพร่กระจายได้ง่ายพอๆ กับสายพันธุ์เดลตาจากอินเดีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์หลักที่กำลังระบาดในปากีสถานอยู่ตอนนี้
ทั้งนี้ โควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอนถูกพบเป็นครั้งแรกที่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 2020 โดยเอปซิลอนตัวดั้งเดิมยังเกิดการกลายพันธุ์ใน 5 ตำแหน่งของโปรตีนหนาม โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ได้จัดให้ 2 สายพันธุ์ย่อยของเอปซิลอน ซึ่งได้แก่ B.1.247 และ B.1.429 เป็น "ตัวกลายพันธุ์ที่น่ากังวล" หลังพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันในแคลิฟอร์เนีย
ขณะที่องค์การอนามัยโลก ได้ขึ้นบัญชีโควิด-19 สายพันธุ์เอปซิลอนเป็น "ตัวกลายพันธุ์ที่น่าสนใจ" ก่อนจะประกาศเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ให้มีการ "เฝ้าระวังจับตาอย่างใกล้ชิด"
เอปซิลอนถูกเชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดรุนแรงเป็นอันดับ 2 ในนิวยอร์ก และเวลานี้พบผู้ติดเชื้อแล้วในอย่างน้อย 34 ประเทศทั่วโลก
'บุกเร็ว แรง เข้มขัน
สร้างแรงกดดันต่อไวรัส'
ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
การป้องกันการปะทุของสายพันธุ์เพี้ยนเหล่านี้ คงต้องยกให้ประเทศจีนเป็นประเทศที่ใช้บริบทของการควบคุมภายในร่างกายมนุษย์ และภายนอกร่างกายมนุษย์ ในการคุมสายพันธุ์เดิมในพื้นที่ไม่ให้กลายเพี้ยน แต่จน 2564 นี้ มีการรุกล้ำจากเดลต้าเช่นกัน
กลยุทธ์ที่ใช้ นั่นคือ การสร้างแรงกดดันอย่างรุนแรงไม่ให้มีการแพร่กระจายเชื้อจากคนหนึ่งไปหาคนอื่น รวมทั้งทำความสะอาดพื้นผิวสาธารณะต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ
การสร้างแรงกดดันที่สำคัญต่อเชื้อที่อยู่ในร่างกายมนุษย์ได้แก่ การวินิจฉัยได้เร็วที่สุดและให้การรักษาเร็วที่สุด ตั้งแต่นาทีแรกควบรวมการใช้สมุนไพรที่มีดาษดื่นและขึ้นทะเบียนในระบบสาธารณสุขของจีนอยู่แล้ว และยกระดับเป็นขั้นเป็นตอน ควบกับการรักษาแผนปัจจุบันและแม้กระทั่งการจัดท่า ของคนที่ติดเชื้อลงปอดให้เป็นท่านอนคว่ำก็เป็นกลยุทธ์ที่ประเทศจีนใช้ก่อน
แรงกดดันที่สำคัญอีกประการคือ การใช้วัคซีน เป็นจำนวนมหาศาลในเวลารวดเร็วให้แก่ประชากรมากกว่าที่คิดคือตัวเลข 60% แต่เป็นเกือบทั้งประเทศ ยกเว้นในเด็กซึ่งในระยะแรกข้อมูลความปลอดภัยอาจจะยังไม่พอ
สำหรับในประเทศไทยเอง การสร้างแรงกดดันต่อไวรัสต้องเข้มข้นตลอดเวลาและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นที่มาของการที่เราต้องการวัคซีนที่ดีที่สุดและสามารถคุมไวรัสที่มีเยอะที่สุดในขณะนี้ ยกตัวอย่างเช่นสายเดลต้าและอัลฟ่า ที่ต้องพูดถึงอัลฟ่าเพราะแม้แต่ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม เรายังมีผู้ป่วยอาการหนักอายุตั้งแต่ 40 ถึง 80 ปีที่ติดเชื้อด้วยอัลฟ่า และดูเหมือนว่ายาฟาวิพิราเวียร์จนกระทั่งยาฉีดเรมเดซิเวีย เอาไม่อยู่หรือแทบเอาไม่อยู่
การฉีดวัคซีนที่ว่าต้องครอบคลุม ทำให้ได้ถึง 80 ถึง 90% ของประชาชนในระยะเวลาเร็วที่สุดภายในสามเดือน
โดยที่ในเด็กเล็กอายุตั้งแต่สองขวบจนกระทั่งถึง 15 ปีสามารถใช้วัคซีนเชื้อตายอย่างที่ประเทศจีนได้นำมาใช้โดยแม้ว่าจะกันการติดของเดลต้าไม่ดีเท่ากับวัคซีนอื่นแต่สามารถลดอาการหนักหรือเสียชีวิตได้ และประเทศจีนกำลังนำวัคซีนคู่แฝดไฟเซอร์ เข้ามาเสริมป้องกันเดลต้า และการพัฒนาวัคซีนโปรคีนย่อยแบบโนวาแวกซ์ แต่แทนที่จะผลิตในระบบเซลล์แมลงหรือใบพืชแบบของใบยาจะผลิตในเซลล์เพาะเลี้ยงแทน รวมถึงวัคซีนอีกหลายเทคนิค
การรุกหนักอย่างเข้มข้นรวดเร็วจะกันไม่ให้มีการกลายพันธุ์ภายในพื้นที่เหมือนกับสายพันธุ์เอปซิลอน ในสหรัฐที่ถือกำเนิดในพื้นที่เอง ไม่มีการนำเข้า และที่แพร่ไปหลายสิบประเทศแล้วจนกระทั่งถึงปากีสถาน และแน่นอนไม่ช้าไม่นานคงจะเข้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมกระทั่งถึงประเทศไทย (และดาหน้ามาอีกมหาศาล เดลต้าพลัส เป็นต้น)"
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
