สหรัฐฯ ชี้ทฤษฎี โควิด-19 หลุดมาจากแล็บในอู่ฮั่น เป็นไปได้

สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานเมื่อวันอังคารที่ 8 มิ.ย. 2564 ว่า

การตรวจสอบเรื่องต้นกำเนิดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจัดทำโดยห้องปฏิบัติการวิจัยแห่งชาติ ลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มีข้อสรุปว่า ทฤษฎีที่ว่าไวรัสมรณะตัวนี้รั่วไหลออกมาจากห้องทดลองในเมืองอู่ฮั่น ของจีน เป็นทฤษฎีที่มีความเป็นไปได้

รายงานดังกล่าวถูกจัดทำในเดือนพฤษภาคม 2563 และถูกอ้างถึงโดยกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ในตอนที่พวกเขาดำเนินการสืบสวนหาจุดเริ่มต้นของการระบาด ในช่วงเดือนสุดท้ายของยุครัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยข้อสรุปของรายงานฉบับนี้ มาจากการวิเคราะห์ข้อมูลจีโนมของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ห้องปฏิบัติการ ลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเพิ่มเติม

ผลการประเมินโดยห้องปฏิบัติการ ลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ ได้มาจากการศึกษาวิเคราะห์สารพันธุกรรม (genomic analysis)

อย่างไรก็ตาม ห้องปฏิบัติการแห่งนี้ยังปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัล

เดือนที่แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ไปค้นหาคำตอบเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 พร้อมระบุว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ มองว่ามีความเป็นไปได้อยู่ 2 ทาง หนึ่งคือห้องแล็บจีนอาจเกิดอุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดจนทำให้ไวรัสหลุดออกมาโดยไม่เจตนา หรืออาจเกิดจากการที่มนุษย์ไปสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อ ทว่าทั้ง 2 กรณีก็ยังไม่มีข้อสรุปยืนยัน

ก่อนหน้านี้ไม่นาน วอลล์สตรีทเจอร์นัลก็ได้ตีแผ่ข่าวกรองของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า มีนักวิจัยจากห้องปฏิบัติการของสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น (WIV) ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2019 หรือเพียงเดือนเดียวก่อนที่จีนจะประกาศว่ามีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น

เจ้าหน้าที่อเมริกันกล่าวโทษจีนว่า "ขาดความโปร่งใส" ในการเผยที่มาของเชื้อไวรัส ขณะที่ปักกิ่งยืนกรานปฏิเสธข้อครหานี้

ขณะเดียวกัน ไมค์ ไรอัน เจ้าหน้าที่อาวุโสขององค์การอนามัยโลก (WHO) ก็ออกมายอมรับวานนี้ (7) ว่า WHO ไม่มีอำนาจที่จะบังคับให้จีนเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโควิด-19 มากไปกว่านี้ แต่จะสนับสนุนให้มีการศึกษาเพิ่มเติม "ขึ้นไปอีกระดับ" เพื่อทำความเข้าใจว่าไวรัสตัวนี้เริ่มอุบัติขึ้นที่ใด