หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป มิได้ส่งผลต่อลำดับการสืบราชบัลลังก์ใดๆ เนื่องจากพระองค์มิได้อยู่ในฐานะของผู้สืบบัลลังก์แต่แรก ดังนั้นสายลำดับการสืบราชบัลลังก์จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลง นั่นคือเจ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ จะยังทรงอยู่ในลำดับแรกของสายลำดับการสืบราชบัลลังก์ตามเดิม ตามมาด้วยเจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ และพระโอรสพระธิดาทั้ง 3 พระองค์ของเจ้าชายวิลเลียม ส่วนในเรื่องของตำแหน่งดยุกแห่งเอดินบะระนั้น มีการคาดการณ์ว่า
เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์ ผู้เป็นพระโอรสองค์เล็กสุดของเจ้าชายฟิลิป และสมเด็จพระราชินีนาถนั้น จะเป็นผู้สืบทอดพระอิสริยยศนี้ต่อไป เนื่องจากการพระราชทานพระอิสสริยยศดังกล่าว เป็นไปตามพระบรมราชวินิจฉัยในสมเด็จพระราชินีนาถ ซึ่งเจ้าชายฟิลิป และเจ้าชายชาร์ลส์ ทรงเห็นพ้องต้องกัน เมื่อครั้งงานพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ด และโซฟี ไรส์-โจนส์ ในปี 1999 ที่นอกจากจะมีการพระราชทานบรรดาศักดิ์ "เอิร์ลและเคานต์เตสแห่งเวสเซ็กส์" แล้ว สำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมขณะนั้นยังได้ออกแถลงการณ์ว่า หากพระราชมารดา และพระราชบิดาสวรรคต เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดจะทรงดำรงบรรดาศักดิ์ดยุกแห่งเอดินบะระเป็นพระองค์ต่อไป
แต่ ในเวลานี้ยังไม่ได้มีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจากสำนักพระราชวัง หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป ทำให้เจ้าชายชาร์ลส์ ผู้เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ดยุกแห่งเอดินบะระไปก่อนในเวลานี้ ตามธรรมเนียมการสืบบรรดาศักดิ์แห่งราชวงศ์อังกฤษ และหากว่าเมื่อใดก็ตามที่เจ้าชายชาร์ลส์เสด็จขึ้นสืบราชสมบัติต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 (หรือเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเสด็จสวรรคต) บรรดาศักดิ์นี้จะถูกถ่ายโอนออกไปให้กับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดทันที นั่นส่งผลให้ตอนนี้เจ้าชายชาร์ลส์ มีพระราชอิสริยยศเต็มคือ "เจ้าชายชาร์ลส์ ฟิลิป อาร์เธอร์ จอร์จ เจ้าชายแห่งเวลส์ ดยุกแห่งคอร์นวอลล์ ดยุกแห่งรอธเซย์ ดยุกแห่งเอดินบะระ เอิร์ลแห่งเชสเตอร์ เอิร์ลแห่งคาร์ริค เอิร์ลแห่งแมริออเน็ธ บารอนกรีนิช บารอนแห่งเรนฟริว ลอร์ดแห่งไอล์ส เจ้าชายและผู้พิทักษ์แห่งสก๊อตแลนด์"