อียูลงดาบ มิน อ่อง หล่าย ยึดทรัพย์-แบนวีซ่า! สหรัฐคว่ำบาตรเพิ่มอีก
โจเซบ บอร์เรล หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป กล่าวว่า "เราจะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อ 11 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐประหารและการปราบปรามผู้ชุมนุม" หลังจากที่บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศชาติสมาชิกอียูในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ประกาศแบนวีซ่าและอายัดทรัพย์สินของ 11 บุคคลดังกล่าว
ขณะที่ ไฮโค มัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี เผยก่อนการประชุมว่า การปราบปรามผู้ประท้วงเพื่อประชาธิปไตยโดยกองกำลังรักษาความมั่นคงเมียนมาไปถึงจุดที่ทนไม่ได้
นอกจากนี้ นักการทูตอียูเผยว่า บางส่วนของกลุ่มบริษัททหารเมียนมา คือ Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ซึ่งครอบคลุมเศรษฐกิจเมียนมา ตั้งแต่การขุดเหมือง การผลิตอาหาร ไปจนถึงโรงแรม โทรคมนาคม และธนาคาร มีแนวโน้มที่จะถูกคว่ำบาตร ด้วยการห้ามนักลงทุนและธนาคารในอียูทำธุรกิจด้วย
"เราไม่ได้ตั้งใจลงโทษชาวเมียนมาแต่พุ่งเป้าไปที่ผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างโจ่งแจ้ง" รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีกล่าว
ส่วนรัฐบาลสหรัฐซึ่งคว่ำบาตรพลเอกมิน อ่อง ลาย ไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะขยายรายชื่อเป้าหมายที่จะถูกคว่ำบาตรด้วย ได้แก่ ตาน ไลง์ ตำรวจอาวุโส และ ออง โซ เจ้าหน้าที่ทหาร รวมถึงหน่วยงานกองทัพเมียนมา 2 กอง คือ กองพลเบาที่ 33 และ ทหารราบเบาที่ 77
แอนโธนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่าสมาชิกของกองพลที่ 33 ยิงกระสุนจริงใส่ผู้ชุมนุมในเมืองมัณฑะเลย์ และว่าทั้งสองหน่วยงานกองทัพเมียนมาเป็นส่วนหนึ่งของ "กลยุทธ์เชิงระบบที่วางแผนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้กำลังร้ายแรง"
ขณะที่ อันเดรีย กักกี ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ กระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า "กองกำลังความมั่นคงเมียนมาต้องยุติการใช้ความรุนแรงถึงแก่ชีวิตกับผู้ประท้วงอย่างสันติ" และ "เรายังยืนหยัดเคียงข้างชาวเมียนมา"
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐยึดเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3,000 ล้านบาท ของธนาคารกลางเมียนมาฝากในธนาคารกลางกลางนิวยอร์ก และรัฐบาลทหารเมียนมาพยายามถอนแต่ไม่สำเร็จหลังรัฐประหาร
ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมายังไม่มีการตอบสนองใดๆ ต่อการคว่ำบาตรดังกล่าว ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารเมียนมายังไม่มีวี่แววจะหวั่นไหวต่อเสียงประณามจากนานาชาติถึงการปราบปรามผู้ประท้วงต้านรัฐประหาร
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 250 ราย ผู้เสียชีวิตล่าสุดของวันจันทร์มี 3 ราย ในเมืองมัณฑะเลย์ ในจำนวนนี้มีหนุ่มวัย 15 ปี ด้วย