เมียนมานองเลือด ใช้กระสุนจริงยิงสลายม็อบ เสียชีวิต 18 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ว่าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ( โอเอชซีเอชอาร์ ) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมและเดินทางขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ว่าบรรยากาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยการปะทะระหว่างมวลชนกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหารและตำรวจ มีการใช้ "มาตรการขั้นเด็ดขาด" ในหลายพื้นที่

ทั้งนี้ โอเอชซีเอชอาร์ได้รับรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 30 คนภายในวันเดียว โดยเป็นผลจากการ "ใช้กระสุนจริง" ของเจ้าหน้าที่ในเมืองย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ เมืองทวาย เมืองมะริด เมืองพะโค และเมืองปะก็อกกู นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังใช้กระสุนยาง ระเบิดควัน และแก๊สน้ำตาร่วมด้วย

ข้อมูลดังกล่าวของโอเอชซีเอชอาร์ เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจากสถานการณ์รุนแรงทางการเมืองในเมียนมา นับตั้งแต่วันรัฐประหาร เมื่อ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นอย่างน้อย 27 คน ในจำนวนนี้ 1 คน เป็นตำรวจ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน ขณะที่รายงานโดยสมาคมให้ความช่วยเหลือนักโทษการเมืองเมียนมา ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ระบุว่า มีผู้ถูกจับกุมแล้วมากกว่า 1,000 คนทั่วประเทศ รวมถึงนางออง ซาน ซูจี และอดีตประธานาธิบดีวิน มยินต์ ซึ่งมีกำหนดขึ้นศาลครั้งใหม่ ในวันที่ 1 มี.ค. นี้ แต่เป็นการไต่สวน "เป็นการภายใน"

เมียนมานองเลือด ใช้กระสุนจริงยิงสลายม็อบ เสียชีวิต 18 คน

ในอีกด้านหนึ่ง สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) สหภาพยุโรป ( อียู ) และรัฐบาลสหรัฐ พร้อมใจกันประณามการสลายการชุมนุมครั้งล่าสุดของตำรวจและทหารเมียนมา ซึ่งถือเป็น "วันนองเลือดที่สุด" โดยนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องกองทัพเมียนมายอมรับผลการเลือกตั้ง และเคารพการตัดสินใจของประชาชน ส่วนนายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า สหรัฐกำลังเตรียม "มาตรการกดดันเพิ่มเติม" ต่อรัฐบาลทหารเมียนมา