ปาฏิหาริย์มีจริง หนุ่ม ปลูกถ่ายใบหน้าและมือ นาน 23 ชม. สำเร็จรายแรกของโลก

เมื่อสองปีที่แล้ว โจ ดิเมโอ วัย 20 ปี ได้ประสบอุบัติเหตุบนถนนที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ ในขณะที่เขากำลังขับรถอยู่ ก่อนจะเริ่มสูญเสียการควบคุม จนรถไปชนขอบทางพลิกคว่ำ และเกิดเพลิงไหม้ ผู้ร่วมทางคนอื่นที่เห็นเหตุการณ์ได้ดึงเขาออกมาจากรถก่อนที่มันจะระเบิด

แต่ดิเมโอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีแผลไฟไหม้ระดับที่สาม เกือบ 80% ของร่างกายของเขาได้รับความเสียหายนั้นรุนแรงมาก กว่าเขาจะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ต้องใช้ชีวิตแบบไม่มีเปลือกตา หู และนิ้วมือ นอกจากนี้ เขายังมีบาดแผลรุนแรงบนใบหน้าและลำคอ ทำให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก ความเป็นอิสระถูกพรากไปจากเขาในทันที

และเมื่อวันพุธ (3 ก.พ.) ที่ผ่านมาแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์ NYU Langone ได้ออกมาประกาศว่า หลังจากที่ทำการผ่าตัดนานกว่า 23 ชั่วโมงที่แสนทรหด ดิเมโอใน วัย 22 ปี ก็ได้ชีวิตของเขากลับคืนมาอีกครั้งในฐานะ 'ผู้รับการปลูกถ่ายใบหน้าและมือที่ประสบความสำเร็จเป็นรายแรกของโลก'

 

"เขาเป็นคนไข้ที่มีแรงจูงใจสูง และมีความหวังมากเท่าที่เราเคยเจอมา" ดร.เอดูอาร์โด โรดริเกซ หัวหน้าทีมที่ทำการผ่าตัดเสร็จ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา แม้ว่าการผ่าตัดจะเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว แต่ทีมแพทย์ที่ดูแลดิเมโอ ก็รอเพื่อให้แน่ใจว่าการปลูกถ่ายนี้ร่างกายของเขาจะไม่ปฏิเสธ หรือมีผลกระทบอื่นตามมา ก่อนจะบอกว่าการผ่าตัดนั้นประสบความสำเร็จ

"มีการปลูกถ่ายด้วยมือสำเร็จแล้วกว่าร้อยครั้งและมีการปลูกถ่ายใบหน้าเกือบ 50 ครั้ง" โรดริเกซกล่าว ซึ่งทั่วโลกมีความพยายามเพียงสองครั้งก่อนหน้านี้ในการทำศัลยกรรมดังกล่าว นั่นคือการปลูกถ่ายใบหน้าของผู้ป่วยและมือทั้งสองข้าง แต่ทั้งสองครั้งก็ไม่ประสบความสำเร็จ

"เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการติดเชื้อต่าง ๆ โดยดำเนินการทุกอย่างโดยเร็วที่สุด เราต้องคัดเลือกผู้บริจาค และเรายังต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด เพื่อให้การผ่าตัดของโจประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ นั่นคือสิ่งที่เราทำ" ซึ่งการผ่าตัดนี้มีคนถึง 80 คน แบ่งเป็นทีมผ่าตัด 6 ทีม และใช้ห้องผ่าตัด 2 ห้องที่อยู่ติดกัน 

หลังจากการผ่าตัดที่ยาวนานกว่า 23 ชั่วโมง อีก 45 วันในห้องไอซียู และอีก 2 เดือน ในห้องผู้ป่วยปกติดิเมโอ เริ่มเรียนรู้ที่จะเปิดเปลือกตาใหม่ขยับมือใหม่และยิ้ม "ผมต้องการแบ่งปันเรื่องราวของผมเพื่อให้ผู้คนมีความหวังในโลก" ดิเมโอกล่าว "ผมอยากจะรับรู้ถึงความเสียสละของผู้บริจาคให้กับผม และจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยหากปราศจากการเสียสละของเขา ขอบคุณ" ดิเมโอกล่าวว่าเขารู้สึกว่านี่เป็นเหมือน 'โอกาสครั้งที่สองในชีวิต' เขาจะเข้ารับการบำบัดต่อไปเพื่อให้มือของเขากลับมาใช้งานได้ "มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เสมอ หากคุณไม่ยอมแพ้"