สี จิ้นผิง เตือน อย่าผลักดันให้โลกแตกแยก หลีกเลี่ยงสงครามเย็นครั้งใหม่
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก สี จิ้นผิง เตือน อย่าผลักดันให้โลกแตกแยก หลีกเลี่ยงสงครามเย็นครั้งใหม่
สี จิ้นผิง กล่าวปราศัยในเวทีเวิล์ด อีโคโนมิก ฟอรัม ย้ำให้แต่ละประเทศร่วมมือกันเพื่อฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 และฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ส่งสัญญาณเตือนอย่า เริ่มสงครามเย็นครั้งใหม่
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปี ดาวอส อเจนด้า (Davos Agenda) ของ เวิล์ด อีโคโนมิกส์ ฟอรั่ม (WEF) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แนะนำให้โลกต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
สี จิ้นผิง ระบุว่า เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์โลกที่เศรษฐกิจทุกประเทศได้รับผลกระทบ พร้อม ๆ กัน อุตสาหกรรมการผลิตและซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก การค้าขายและการลงทุน ถึงแม้ทั้งโลกจะออกมาตรการเยียวยาหลายล้านล้านดอลลาร์ตามแต่ละประเทศ แต่การฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกยังคงไม่มั่นคง และอนาคตยังคงไม่แน่นอน
พร้อมกันนี้ประธานาธิบดีสี ได้เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆละทิ้งอคติทางอุดมการณ์ และร่วมกันปฏิบัติตามแนวทางของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติเพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้หลีกเลี่ยงการ เริ่มสงครามเย็นครั้งใหม่ ที่จะผลักดันให้โลกแตกแยกหรือเผชิญหน้ากันมากขึ้น
โลกไม่ควรต่อสู้กันเหมือนอยู่ใน สังเวียนมวยปล้ำ โดยเตือนว่าโลกจะกลับไปยุคดึกดำบรรพ์หากประเทศต่างๆไม่ช่วยเหลือกัน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ สี กล่าวว่าจะต้องให้ความสำคัญกับการยกระดับวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลิต การขนส่งกระจายวัคซีน และทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ถือเป็นคำปราศัยครั้งแรกของสี จิ้นผิง หลังจาก โจ ไบเดน สาบานตนรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา
และหลังคำปราศัยของสี จิ้นผิง เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า
สหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายกับจีนด้วยกลยุทธ์ ความอดทน พร้อมย้ำว่า สหรัฐอยู่ในการแข่งขันที่รุนแรงกับจีน โดยที่ผ่านมาการกระทำของทางการจีนได้ทำลายชนชั้นแรงงานของชาวอเมริกัน ทำลายความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของสหรัฐ และคุกคามพันธมิตรและอิทธิพลของสหรัฐในองค์กรระหว่างประเทศ
สิ่งที่เราพบเห็นมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือจีนมีอำนาจเผด็จการมากขึ้น และแสดงออกมาขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งเข้ามาเป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของสหรัฐ ดังนั้นประเทศสหรัฐจึงต้องวางกลยุทธ์อย่างระมัดระวังเพื่อแข่งขันกับจีน... ซากีกล่าว
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สี จิ้น ผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปี ดาวอส อเจนด้า (Davos Agenda) ของ เวิล์ด อีโคโนมิกส์ ฟอรั่ม (WEF) เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แนะนำให้โลกต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย
สี จิ้นผิง ระบุว่า เป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์โลกที่เศรษฐกิจทุกประเทศได้รับผลกระทบ พร้อม ๆ กัน อุตสาหกรรมการผลิตและซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก การค้าขายและการลงทุน ถึงแม้ทั้งโลกจะออกมาตรการเยียวยาหลายล้านล้านดอลลาร์ตามแต่ละประเทศ แต่การฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกยังคงไม่มั่นคง และอนาคตยังคงไม่แน่นอน
พร้อมกันนี้ประธานาธิบดีสี ได้เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆละทิ้งอคติทางอุดมการณ์ และร่วมกันปฏิบัติตามแนวทางของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติเพื่อผลประโยชน์ของทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้หลีกเลี่ยงการ เริ่มสงครามเย็นครั้งใหม่ ที่จะผลักดันให้โลกแตกแยกหรือเผชิญหน้ากันมากขึ้น
โลกไม่ควรต่อสู้กันเหมือนอยู่ใน สังเวียนมวยปล้ำ โดยเตือนว่าโลกจะกลับไปยุคดึกดำบรรพ์หากประเทศต่างๆไม่ช่วยเหลือกัน และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศและกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ สี กล่าวว่าจะต้องให้ความสำคัญกับการยกระดับวิจัยและพัฒนา รวมถึงการผลิต การขนส่งกระจายวัคซีน และทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณะอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ถือเป็นคำปราศัยครั้งแรกของสี จิ้นผิง หลังจาก โจ ไบเดน สาบานตนรับตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา
และหลังคำปราศัยของสี จิ้นผิง เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวระบุว่า
สหรัฐฯ จะดำเนินนโยบายกับจีนด้วยกลยุทธ์ ความอดทน พร้อมย้ำว่า สหรัฐอยู่ในการแข่งขันที่รุนแรงกับจีน โดยที่ผ่านมาการกระทำของทางการจีนได้ทำลายชนชั้นแรงงานของชาวอเมริกัน ทำลายความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของสหรัฐ และคุกคามพันธมิตรและอิทธิพลของสหรัฐในองค์กรระหว่างประเทศ
สิ่งที่เราพบเห็นมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คือจีนมีอำนาจเผด็จการมากขึ้น และแสดงออกมาขึ้นในต่างประเทศ ซึ่งเข้ามาเป็นอุปสรรคต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของสหรัฐ ดังนั้นประเทศสหรัฐจึงต้องวางกลยุทธ์อย่างระมัดระวังเพื่อแข่งขันกับจีน... ซากีกล่าว
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น