ทูตอาวุโสโสมแดงแปรพักตร์ ยกครอบครัวเข้าสู่เกาหลีใต้

นักการทูตอาวุโสเกาหลีเหนือ อดีตรักษาการเอกอัครราชทูตประจำคูเวต แปรพักตร์สู่เกาหลีใต้พร้อมกับครอบครัว จากรายงานของหนังสือพิมพ์ในเกาหลีใต้ เมื่อวันจันทร์ (25 ม.ค.)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ว่า นายริว ฮยุน-วู เดินทางถึงเกาหลีใต้ ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2562 และยื่นเรื่องขอลี้ภัย จากรายงานของหนังสือพิมพ์ธุรกิจรายวัน แมอิล แต่ความเคลื่อนไหวของนายริวและครอบครัว ถูกปิดเป็นความลับ จนกระทั่งปัจจุบัน

ชาวเกาหลีเหนือประมาณ 30,000 คน หลบหนีการกดขี่และความยากจน ภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ เข้าไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในดินแดนทุนนิยมเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่จะลักลอบข้ามแดนเข้าสู่จีนทางภาคเหนือ แล้วเดินทางผ่านประเทศที่ 3 เข้าสู่เกาหลีใต้

การแปรพักตร์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นนานๆ ครั้ง การแปรพักตร์ของริวเกิดขึ้น 2 เดือน หลังจากนายโจ ซอง กิล อดีตรักษาการเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำอิตาลี ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยในเกาหลีใต้

ริวให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวของแมอิล ว่า เขาตัดสินใจแปรพักตร์ เนื่องจากต้องการให้อนาคตที่ดีกว่าแก่ลูก

ริวได้รับการแต่งตั้งให้รักษาการเอกอัครราชทูตประจำคูเวต เป็นการชั่วคราว เมื่อเดือน ก.ย. 2560 หลังจากรัฐบาลคูเวตขับไล่ทูตคนเก่า นายโซ จาง ซิค ตามมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือขององค์การสหประชาชาติ เพื่อลงโทษการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์

รายงานระบุว่า ริวเป็นลูกเขยของนายจอน อิล ชุน อดีตผู้อำนวยการ สำนักงาน 39 ในกรุงเปียงยาง หน่วยงานที่มีหน้าที่บริหารจัดการเงินทุนลับของผู้นำเกาหลีเหนือ

นายแต ยอง-โฮ อดีตผู้ช่วยทูตเกาหลีเหนือประจำสหราชอาณาจักร ซึ่งแปรพักตร์สู่เกาหลีใต้ในปี 2559 และต่อมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ได้เป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคฝ่ายค้านเกาหลีใต้ เมื่อปีที่แล้ว เผยว่า นายริวเป็นหนึ่งในกลุ่มคนวงใน แกนอำนาจใกล้ชิดกับนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แต่ไม่ว่าชีวิตคุณจะเลิศหรู มีอภิสิทธิ์แค่ไหนในดินแดนเกาหลีเหนือ ความคิดคุณจะเปลี่ยนไป เมื่อคุณได้ไปต่างแดน และได้เห็นความแตกต่าง