รัฐบาลจีน ชี้ มีเเผนฮุบอารีบาบา เป็นสมบัติชาติ

หลังจาก "แจ็ค หม่า" ได้ทำการวิจารณ์รัฐบาลจีน ไปเมื่อ 24 ตุลาคม 2020 ในประเด็นนโยบายตลาดการเงินที่ไม่ยืดหยุ่นและเก่าคร่ำครึ หลังจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ แจ็ค หม่า ก็ไม่ปรากฎหน้าบนสื่อหรือแสดงการเคลื่อนไหวใด ๆ อีกเลย รวมถึงยังเลื่อนกำหนดการต่าง ๆ ออกไปอย่างงง ๆ 

ยังไม่มีแถลงการณ์ หรือข้อมูลจริง ๆ ใดเผยออกมา แต่ตามข่าวลือบวกการวิเคราะห์แล้ว เชื่อว่าจากการที่ แจ็ค หม่า ทำการแข็งข้อหรือต่อต้านรัฐบาลจีน ทำให้รัฐบาลจีนเพ่งเล็ง Alibaba เพื่อที่จะทำการเวนคืนกับบริษัท หรือพูดง่าย ๆ คือการเอา Alibaba มาเป็นส่วนหนึ่งของภาครัฐ ซึ่งถือเป็นการแสดงออกด้านความเป็นเผด็จการอย่างรุนแรง วิธีการดังกล่าวมีอยู่ในทุกประเทศ 

วิธีเวนคืนบริษัทจะไม่ทำกันแบบโต้ง ๆ แต่จะมาในรูปแบบกฎหมายต่อต้านการผูกขาด จากนั้นก็ทำการแตกบริษัทดังกล่าวเป็นส่วน ๆ แล้วรัฐก็จะค่อย ๆ เก็บแต่ละส่วนไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นของรัฐบาลไปในที่สุด (โดยคนที่เข้าไปถือหุ้นก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นธนาคาร ที่ทางรัฐบาลถือครองอยู่กว่าครึ่งนั่นแหละ) ตอนนี้ แจ็ค หม่า ยังหายสาบสูญ เขาไม่ใช่คนรวยที่สุดในจีนอีกแล้ว เพราะคนที่รวยที่สุดในจีนมูลค่าสินทรัพย์ตกลงไปพร้อมกับหุ้นของ Alibaba

ตามรายงานของ ผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2020 ของ Alibaba เผยว่ารายได้โดยรวม เพิ่มขึ้น 30% เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 22,838 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 4,237 ล้านดอลลาร์ โดยมีจำนวนผู้ใช้งานผ่านมือถือแบบต่อเดือนตกอยู่ที่ 881 ล้านคน แต่จากปัญหากับทางรัฐบาลจีน ตอนนี้มูลค่าของ Alibaba ได้หายไปแล้วมากกว่า 4 ล้านล้านบาท หุ้น Alibaba ติดลบจากจุดสูงสุดมาแล้วมากกว่า 25%

เมื่อปี 2020 นิตยสาร New Fortune เผยผลสำรวจอันดับ 500 มหาเศรษฐีในประเทศจีน ปี 2019 อันดับหนึ่งของผู้มั่งคั่งที่สุดในจีนในตอนนั้นคือ แจ็ค หม่า ต่อมาในช่วงกันยายน 2020 เขาก็ได้ล่วงลงจากตำแหน่ง และโดน จงซานซาน ผู้มีธุรกิจหลักคือน้ำดื่มบรรจุขวดและวัคซีน แซงขึ้นเป็นอันดับ 1 ไปแทน