ทรัมป์สั่งประหารก่อนพ้นตำแหน่ง นักโทษเอ่ยคำสุดท้าย...?
นายเบอร์นาร์ดถูกประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ และสิ้นใจในเวลา 21.27 น. วันที่ 10 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนตายนักโทษกล่าวถ้อยคำขอโทษญาติเหยื่อโดยตรง ถึงบาปกรรมที่ตนก่อไว้ ด้วยท่าทีสงบนิ่ง เหมือนทำใจไว้แล้วว่าตัวเองจะต้องตาย
"ผมขอโทษ นี่เป็นเพียงคำที่ผมพูดได้จากความรู้สึกวันนี้ และรู้สึกตั้งแต่วันที่ก่อเหตุ ผมอยากย้อนเวลากลับไปได้ แต่ผมก็ทำไม่ได้" นายเบอร์นาร์ดยกศีรษะขึ้นมองไปยังหน้าต่างสำหรับพยานที่ดูการประหาร จากนั้นกล่าวขอโทษครอบครัวของตนเองด้วย รวมเวลา 3 นาที ด้วยท่าทีที่ไม่ทุกข์ร้อนดิ้นรนใดๆ อีก
นายเบอร์นาร์ดก่อคดี ตอนอายุ 18 ปี ร่วมกับเพื่อน 4 คนไปลักพาตัวและปล้นนายทอดด์ และนางสเตซี แบ็กลีย์ ระหว่างทางที่ทั้งสองกลับจากการไปโบสถ์วันอาทิตย์ที่เมืองคิลลีน รัฐเท็กซัส จังหวะนั้นนายเบอร์นาร์ดเป็นผู้ราดน้ำมันไฟแช็กแล้วจุดไฟเผาร่างทั้งสองที่อยู่ท้ายรถ
สำหรับการประหารโดยคำสั่งของรัฐบาลกลางกลับมาใช้อีกครั้ง ตามคำสั่งของนายทรัมป์เมื่อเดือนกรกฎาคม หลังจากระงับระบบนี้มานาน 17 ปี อีกทั้งยังไม่ประเมินความเสี่ยงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในเรือนจำ
อย่างไรก็ตาม นางจอร์เจียสะอื้อกลางคัน และไม่ได้อ่านคำพูดที่เตรียมไว้ ทั้งยังเสียงสั่นเครือเมื่อพูดถึงคำขอโทษของนายเบอร์นาร์ดก่อนจะถูกประหาร
"คำขอโทษและสำนึกผิดช่วยเยียวยาฉันได้มาก" นางจอร์เจียกล่าวสะอื้น ก่อนจะกลั้นน้ำตาพูดว่า "ทำให้ฉันพูดออกว่า ฉันยกโทษให้"
การทยอยประหารนักโทษ 5 รายที่เตรียมขั้นตอนไว้แล้วนี้ จะทำให้รัฐบาลกลางของนายทรัมป์มีการประหารชีวิตนักโทษมากที่สุดในรอบกว่าร้อยปี รวมทั้งสิ้น 13 ราย นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมดังกล่าว โดยนักโทษ 5 รายนี้ เป็นคนผิวดำ 4 ราย รายสุดท้ายเป็นผู้หญิงผิวขาว จะเป็นนักโทษหญิงคนแรกที่ถูกประหารในรอบ 6 ทศวรรษ
VVV
V