เกาหลีเหนือพยายาม แฮ็กฐานข้อมูลวัคซีน โควิด-19 เกาหลีใต้

แฮ็กเกอร์ที่ทำงานให้รัสเซีย เกาหลีเหนือ และ จีน พยายาม แฮ็กฐานข้อมูลวัคซีน โควิด-19 ของเกาหลีใต้ แต่ล้มเหลว ขณะนี้ยังไม่มีการตรวจพบความเสียหาย

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 สำนักข่าว อัลจาซีรา รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ พบว่า เกาหลีเหนือพยายามที่จะเจาะระบบแฮ็กฐานข้อมูลวัคซีน บริษัทของเกาหลีใต้ที่พัฒนาวัคซีนโควิด-19 สำนักข่าว News1 รายงานเมื่อวันศุกร์ โดยอ้างจาก สมาชิกของคณะกรรมการข่าวกรองของรัฐสภา

ฮาแทกึน สมาชิกสภานิติบัญญัติ กล่าวว่าหลังจากได้รับการบรรยายสรุปจากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ หน่วยงานไม่ได้ระบุถึงจำนวนและแจกแจงว่าผู้ผลิตยารายใดที่ตกเป็นเป้าหมาย แต่บอกเพียงว่าไม่มีความเสียหายจากการพยายามแฮ็ก โดยขณะนี้ยังไม่มีการตอบกลับจากเกาหลีเหนือต่อข้อกล่าวหา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไมโครซอฟท์ กล่าวว่าแฮ็กเกอร์ที่ทำงานให้กับรัฐบาลรัสเซียและเกาหลีเหนือได้พยายามเจาะเข้าไปในเครือข่ายของ บริษัทยาและข้อมูลวิจัยวัคซีน 7 แห่ง ใน เกาหลีใต้ แคนาดา ฝรั่งเศส อินเดีย และสหรัฐอเมริกา เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศเหล่านี้มีเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูง และมีแข่งขันกันพัฒนาผลิตและจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพ

การที่เกาหลีเหนือพยายามโจมตีการวิจัยวัคซีนโควิด-19 ไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง ถูกมองว่าเป็นความพยายามในการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา มากกว่าเป็นการขัดขวางการวิจัย ขณะเดียวกันในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2563 แฮ็กเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน ก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าพยายามโจมตีระบบของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพโมเดิร์นา ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวิจัยวัคซีนโควิด-19 ชั้นนำในสหรัฐอเมริกาเพื่อขโมยข้อมูลที่มีค่า โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โมเดิร์นา เปิดเผยว่าวัคซีนของบริษัทมีประสิทธิภาพมากถึง ร้อยละ 94.5 ในการทดสอบขนาดใหญ่

ความพยายามในการแฮ็กข้อมูลในเกาหลีใต้ของเกาหลีเหนือ ถูกเปิดโปง ในขณะที่เกาหลีใต้กำลังต่อสู้กับการระบาดระลอกที่ 3 ของการแพร่ระบาด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้มีรายงานผู้ป่วยรายใหม่ 569 รายซึ่งเป็นวันที่สองติดต่อกัน ที่การติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 500 ราย

อย่างไรก็ตามอัตราการเสียชีวิตของเกาหลีใต้ยังคงอยู่ในระดับต่ำโดยมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายเมื่อวันศุกร์ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 516 คนซึ่งเป็นจำนวนที่ต่ำที่สุดในประเทศที่พัฒนาแล้ว