ทรัมป์ ยังไม่ยอมแพ้ พูดแล้วครั้งแรก ไบเดนชนะ ...เพราะโกง

ทรัมป์ ยังไม่ยอมแพ้ - วันที่ 15 พ.ย. บีบีซี รายงานความคืบหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ผ่านมากว่าสิบวันแล้วว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐอเมริกา แสดงท่าทีออกมายอมรับครั้งแรกว่า นายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้

ภายหลังที่นายไบเดนมีคณะผู้เลือกตั้งทิ้งห่างจากประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้สมัครนั่งเก้าอี้ต่อสมัยสองจากพรรครีพับลิกัน 306 เสียง ต่อ 232 เสียง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ยังปฏิเสธอีกครั้งที่จะยอมแพ้ และการยอมรับชัยชนะของนายไบเดนดูจะไม่เต็มใจเท่าไรนัก เนื่องจากทวีตข้อความพาดพิงถึงนายไบเดนว่า เขาชนะเพราะการเลือกตั้งมีการโกงและว่า ไม่มีผู้เฝ้าดูหรือผู้สังเกตการณ์การลงคะแนนได้รับอนุญาตเข้าไปหน่วยเลือกตั้ง

และว่า ผู้อยู่เบื้องหลังคือ โดมิเนียน บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์การลงคะแนนที่มีชื่อเสียและเจ้าของเป็นซ้ายหัวรุนแรง แต่อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้ใช้ในรัฐเท็กซัส (ซึ่งผมชนะถล่มทลาย!) รวมถึงสื่อปลอมและเงียบเฉย และอีกมากมาย!

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่นาทีต่อมา ประธานาธิบดีทวีตข้อความพาดพิงนายไบเดนอีกว่า

 เขาชนะในสายตาของสื่อข่าวปลอมเท่านั้น ผมไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ใดๆ ผมมีหนทางต้องเดินอีกยาวไกล นี่เป็นการเลือกตั้งที่โกง!

ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ออกมาอ้างหลายครั้งถึงการโกงการเลือกตั้งขนาดใหญ่ แม้จะยื่นฟ้องดำเนินคดีในรัฐสวิงสเตต แต่ไม่ให้หลักฐานสนับสนุนข้ออ้างของผู้นำสหรัฐถึงการโกงการเลือกตั้ง และจนถึงตอนนี้ การยื่นฟ้องทั้งหมดยังไม่สำเร็จ

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งสหรัฐแถลงเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีจัดขึ้นด้วยความรัดกุมที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา และ ไม่มีหลักฐานใดที่บ่งบอกว่าระบบการเลือกตั้งถูกลบ หรือมีคะแนนเสียงหายไป หรือมีการเปลี่ยนคะแนนเสียง หรือมีลักษณะเออออเข้าข้างใครเป็นอันขาด

เคย์เลจ แม็กเกอร์เนนี โฆษกทำเนียบขาว บอกกับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่าตัวเองจะเป็นประธานาธิบดี และดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง นอกจากนี้ ในการแถลงข่าววันเดียวกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า ใครจะรู้" ว่ารัฐบาลใดจะมีอำนาจในอนาคต

ความเคลื่อนไหวของผู้นำสหรัฐล่าสุดเกิดขึ้นในวันเดียวกันที่ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์หลายหมื่นคนออกมารวมชุมนุมในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รวมถึงสมาชิกกลุ่มขวาจัด เช่น พราวด์ บอยส์ กลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนนโยบายต่อต้านผู้อพยพลี้ภัยของประธานาธิบดีทรัมป์ หลายคนสวมใส่ชุดยุทธวิธีและเสื้อกันกระสุน

การชุมนุมอย่างสันติกลายตั้งแต่ช่วงเช้ากลายเป็นความรุนแรงเล็กน้อยเมื่อช่วงเย็น เนื่องจากผู้สนับสนุนและต่อต้านประธานาธิบดีทรัมป์ต่างปะทะกันหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ชุมนุม 20 คน ด้วยหลายข้อหา รวมถึงทำร้ายร่างกาย และครอบครองอาวุธปืน ภายหลังมีรายงานผู้ชุมนุมถูกแทง 1 คน และตำรวจ 2 นาย บาดเจ็บ