โจ ไบเดน คว้าชัยชนะ มีผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจไทย?
ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ในกรณีที่ "โจ ไบเดน" ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 46
เมื่อไบเดนต้องการใช้จ่ายเงินมากขึ้น อาจมีการขึ้นภาษีนิติบุคคล อาจจะกระทบกำไรการจดทะเบียนตลาดหุ้นสหรัฐ และอาจทำให้นักลงทุนสนใจลงทุนในสหรัฐฯ น้อยลงเพราะไม่อยากเสียภาษีแพง
ส่วนในการ ทำสงครามการค้ากับจีน คาดว่าไบเดนจะไม่ใช้วิธีดุดันแข็งกร้าวอย่างทรัมป์ แต่จะหันไปจับมือกับพันธมิตรอื่น ๆ เพื่อกดดันจีน เช่น การกลับมาเข้าร่วม CPTPP ซึ่งมีผลทำให้ไทยต้องพิจารณาหนักขึ้นในเรื่องของการเข้าร่วม
สำหรับไทยทำให้ต้องกันมาดูการเข้าร่วม CPTPP (ข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก) เนื่องจากที่ผ่านมามีกระแสไม่เห็นด้วยกับการเข้าร่วม CPTPP อยู่ค่อนข้างมากในไทย เพราะมองว่า ไทยได้ประโยชน์ไม่มากนักเมื่อเทียบกับข้อเสีย แต่หากสหรัฐกลับมาเข้าร่วม CPTPP เมื่อไหร่ ต้นทุนของไทยในการไม่เข้าร่วมจะเพิ่มขึ้น
เนื่องจากจะทำให้ประเทศไทยเสียความสามารถในการแข่งขันกับตลาดที่สำคัญอย่างสหรัฐ และนักลงทุนบางประเทศที่อยู่ใน CPTPP เช่น ญี่ปุ่น อาจจะพิจารณาย้ายฐานการผลิตจากไทย ไปยังประเทศอื่น เช่น เวียดนาม หรือมาเลเซีย ที่อยู่ใน CPTPP เพื่อให้ได้ผลประโยชน์จากความร่วมมืออย่างเต็มที่
เพราะประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีการสันดาปภายใน หากนโยบายสหรัฐฯ มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า พึ่งพาพลังงานจากคาร์บอนลดลง ไทยอาจได้รับผลกระทบในภาคการผลิตที่เกี่ยวข้อง และต้องหันมาพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าให้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อยักษ์ขยับไทยก็ต้องจับตาและเตรียมรับมือกับนโยบายต่างๆ ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไป หรือ มีผลกระทบมาไม่มากก็น้อย