พ่อแท้ๆ ข่มขืน ลูกสาววัย 10 เดือน เลือดท่วมผ้าอ้อม-เสียชีวิตอนาถ

วันที่ 9 ต.ค. เดลีเมล์ รายงานเหตุการณ์สะเทือนใจใน สหรัฐอเมริกา หลังจากตำรวจเมืองโลเวอร์โพรวิเดนซ์ เขตมอนต์โกเมอรี รัฐเพนซิลเวเนีย ได้รับแจ้งเหตุฉุกเฉินมีทารกหยุดหายใจ เมื่อเจ้าหน้าที่นำกำลังรุดไปยังบ้านที่เกิดเหตุก็รีบนำตัว ด.ญ.ซาร่า สกรัจส์ วัย 10 เดือน ส่งโรงพยาบาลแต่แพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ซ้ำร้ายยังตรวจพบในเวลาต่อมาว่าหนูน้อยถูกล่วงละเมิดทางเพศ และยิ่งสลดหนักเมื่อเจอว่าผู้ต้องสงสัยคือ นายออสติน สตีเฟ่นส์ โค้ชทีมฟุตบอล วัย 29 ปี พ่อแท้ๆ ของซาร่า

รายงานระบุว่าเมื่อเวลา 10.40 น. ของวันเสาร์ที่ 3 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีทารกไม่ตอบสนอง จึงนำกำลังไปยังอพาร์ตเมนต์บนถนนเจอร์มันทาวน์ และปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการปั๊มหัวใจ แต่เด็กหญิงยังคงนิ่ง เลยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ไอน์สไตน์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ มอนต์โกเมอรี และไม่ถึง 2 ชั่วโมงต่อมาแพทย์ก็แจ้งว่าหนูน้อยเคราะห์ร้ายเสียชีวิต

เบื้องต้นนายสตีเฟ่นส์ถูกควบคุมตัวรอขึ้นการไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 13 ต.ค. ตามข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราเด็ก ทำร้ายทางเพศอย่างอุกฉกรรจ์ และกระทำการบังคับกามวิปริต โดยตั้งหลักทรัพย์ประกันตัวที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 31.1 ล้านบาท

ขณะที่ตำรวจได้รับอนุญาตหมายค้นเพื่อตรวจสอบประวัติการใช้งานโทรศัพท์มือถือของนายสตีเฟ่นส์ พบว่ามีการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์กูเกิลหลายครั้ง อาทิ "ถ้าทารกหยุดหายใจ" "จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณไม่ได้ยินเสียงหัวใจหรือเสียงหัวใจเต้นของลูก" "ลูกของฉันไม่หายใจ" และ "คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเด็กเสียชีวิต"

หลังจากใช้เวลานานร่วม 1 ชั่วโมง นายสตีเฟ่นส์ก็ตัดสินใจโทรศัพท์แจ้ง 911 เพื่อขอความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังพบว่านายสตีเฟ่นส์ใช้โซเชี่ยลมีเดีย แช็ตกับเพื่อนหญิง 2 คน โดยไม่ได้เอ่ยถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับซาร่าเลยแม้แต่น้อย

ด้านสำนักงานอัยการเปิดเผยเอกสารชันสูตรศพซาร่าซึ่งระบุว่า พบผ้าอ้อมสำเร็จรูปเต็มไปด้วยเลือดซุกซ่อนอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของนายสตีเฟ่นส์ คาดว่าเป็นผ้าอ้อมที่ซาร่าสวมใส่ในช่วงเกิดเหตุ ส่วนผลการชันสูตรนั้น เด็กหญิงมีร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศบริเวณทวารหนัก และมีบาดแผลจากการกระแทกอย่างแรงที่ศีรษะ

 

"คดีนี้น่าหดหู่ใจเป็นอย่างยิ่ง ถือเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าการเสียชีวิตของเด็กหญิงจะยิ่งเลวร้ายไปมากกว่าการล่วงละเมิดทางเพศเด็กทารก ตามด้วยพฤติกรรมเฉยเมยต่อการรักษาชีวิตลูกน้อยของผู้เป็นพ่อซึ่งนำไปสู่ความตาย" นายเควิด สตีล อัยการเขต ระบุผ่านแถลงการณ์

ทั้งนี้ เอ็นบีซี 10 ระบุว่า นายสตีเฟ่นส์แยกทางกับนางเอริกา สกัจส์ แม่ของซาร่า และแบ่งสิทธิ์การดูแลลูกเท่าๆ กัน ซึ่งนางสกรัจส์โพสต์บนเพจเฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ฉันไม่โอเค ฉันไม่มีคำพูดอะไรทั้งนั้น...และเขาจะต้องชดใช้"

ขณะเดียวกันญาติฝั่งนางสกรัจส์และเพื่อนๆ ร่วมกันตั้งเพจระดมเงินทาง GoFundMe เพื่อช่วยเหลือนางสกรัจส์ที่เผชิญหน้ากับช่วงเวลายากลำบากของการสูญเสียลูกสาว และเพียงไม่นานก็มีคนใจบุญแห่บริจาคจนมียอดช่วยเหลือกว่า 44,400 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 1.4 ล้านบาท