โพลชี้ไบเดนเฉือนชนะทรัมป์ ในการดีเบตกันครั้งแรก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก โพลชี้ไบเดนเฉือนชนะทรัมป์ ในการดีเบตกันครั้งแรก
ผลสำรวจความคิดเห็นชาวอเมริกัน หลังศึกประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกของคู่ชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ ยกให้นายโจ ไบเดน "เฉือนชนะ" ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่มองว่าการดีเบตครั้งนี้ "ไร้สาระ"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่าภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองผู้นำสหรัฐ 2 สมัย และตัวแทนพรรคเดโมแครต ขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรก สำหรับคู่ชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ ที่มหาวิทยาลัยเคส เวสเทิร์น รีเซิร์ฟ ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เมื่อคืนวันอังคาร โดยทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันอย่างดุเดือดตลอด 90 นาที และทรัมป์ "พูดมากกว่า" ไบเดนนั้น
ผลสำรวจความคิดเห็นทางออนไลน์โดยสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ปรากฏว่า 48% ยกให้ไบเดนทำได้ดีว่า และ 41% ของกลุ่มตัวอย่างมองว่าทรัมป์ทำได้ดีกว่า แต่ 10% ให้ทั้งคู่ "เสมอกัน" อย่างไรก็ตาม 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามกับซีบีเอสให้ความเห็นว่า การดีเบตครั้งนี้ "น่ารำคาญ" โดยมีเพียง 17% เท่านั้นที่กล่าวว่า "มีสาระ"
ขณะที่โพลของซีเอ็นเอ็นปรากฏว่า 60% ของกลุ่มตัวอย่างมองว่า ไบเดนทำได้ดีกว่าผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ซึ่งได้คะแนนสนับสนุน 28% ทั้งนี้ ผลสำรวจของซีเอ็นเอ็นออกมาค่อนข้างใกล้เคียงกับการดีเบตรอบแรก เมื่อปี 2559 ระหว่างทรัมป์กับนางฮิลลารี คลินตัน โดยตอนนั้น 62% ยกให้คลินตันเป็นฝ่ายชนะ และทรัมป์ 27%
ด้านดร.แฟรงก์ ลันต์ซ หนึ่งในที่ปรึกษาทางการเมืองชื่อดังของสหรัฐ กล่าวว่า
ทีมงานของทั้งสองฝ่ายคาดหวังให้การดีเบตครั้งนี้สามารถ "โน้มน้าว" ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนที่ยังลังเล "ให้ตัดสินใจ" แต่ปฏิกิริยาของบุคคลกลุ่มนี้ค่อนข้างไปในทางที่ว่า "ไม่อยากลงคะแนนให้กับใคร" หรืออาจถึงขั้นไม่ออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 3 พ.ย. ดั้งนั้นทีมงานของทั้งทรัมป์และไบเดน "ต้องทำการบ้านให้ดีขึ้น" สำหรับการขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ครั้งต่อไป ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ที่เมืองไมอามี ในรัฐฟลอริดา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ว่าภายหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองผู้นำสหรัฐ 2 สมัย และตัวแทนพรรคเดโมแครต ขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรก สำหรับคู่ชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐ ที่มหาวิทยาลัยเคส เวสเทิร์น รีเซิร์ฟ ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ เมื่อคืนวันอังคาร โดยทั้งสองฝ่ายโต้เถียงกันอย่างดุเดือดตลอด 90 นาที และทรัมป์ "พูดมากกว่า" ไบเดนนั้น
ผลสำรวจความคิดเห็นทางออนไลน์โดยสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ปรากฏว่า 48% ยกให้ไบเดนทำได้ดีว่า และ 41% ของกลุ่มตัวอย่างมองว่าทรัมป์ทำได้ดีกว่า แต่ 10% ให้ทั้งคู่ "เสมอกัน" อย่างไรก็ตาม 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามกับซีบีเอสให้ความเห็นว่า การดีเบตครั้งนี้ "น่ารำคาญ" โดยมีเพียง 17% เท่านั้นที่กล่าวว่า "มีสาระ"
ขณะที่โพลของซีเอ็นเอ็นปรากฏว่า 60% ของกลุ่มตัวอย่างมองว่า ไบเดนทำได้ดีกว่าผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน ซึ่งได้คะแนนสนับสนุน 28% ทั้งนี้ ผลสำรวจของซีเอ็นเอ็นออกมาค่อนข้างใกล้เคียงกับการดีเบตรอบแรก เมื่อปี 2559 ระหว่างทรัมป์กับนางฮิลลารี คลินตัน โดยตอนนั้น 62% ยกให้คลินตันเป็นฝ่ายชนะ และทรัมป์ 27%
ด้านดร.แฟรงก์ ลันต์ซ หนึ่งในที่ปรึกษาทางการเมืองชื่อดังของสหรัฐ กล่าวว่า
ทีมงานของทั้งสองฝ่ายคาดหวังให้การดีเบตครั้งนี้สามารถ "โน้มน้าว" ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนที่ยังลังเล "ให้ตัดสินใจ" แต่ปฏิกิริยาของบุคคลกลุ่มนี้ค่อนข้างไปในทางที่ว่า "ไม่อยากลงคะแนนให้กับใคร" หรืออาจถึงขั้นไม่ออกไปใช้สิทธิ์ในวันที่ 3 พ.ย. ดั้งนั้นทีมงานของทั้งทรัมป์และไบเดน "ต้องทำการบ้านให้ดีขึ้น" สำหรับการขึ้นเวทีประชันวิสัยทัศน์ครั้งต่อไป ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ ที่เมืองไมอามี ในรัฐฟลอริดา
" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น