ม็อบเลบานอนเดือดต่อ ชี้ฤทธิ์โคตรระเบิด ถล่มหลุมลึก 43 เมตร

เอเอฟพี รายงานว่า เมื่อ 9 ส.ค. เกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงชาวเลบานอนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สาม หลังมวลชนโกรธแค้นเหตุโคตรระเบิดแอมโมเนียมไนเตรต ถล่มท่าเรือกรุงเบรุต เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ซึ่งมาจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐบาล

โดยผู้ประท้วงยืนกรานเรียกร้องให้นายฮัสซัน ดิอับ นายกรัฐมนตรี ลาออกทันทีก่อนหน้านี้ น.ส.มานัล อับดุล ซามัด รมว.ข้อมูลข่าวสาร แถลงผ่านสื่อว่าลาออกจากคณะรัฐมนตรี เพื่อร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์หายภัยขึ้นในกรุงเบรุต ทั้งขอโทษประชาชนที่ทำให้ผิดหวัง นับเป็นการลาออกต่อเนื่องจากส.ส. 6 คน

อย่างไรก็ตาม ผู้ร่วมการประท้วงประกาศว่า การลาออกของส.ส.หรือรัฐบาลไม่เพียงพอ ต้องให้นายกฯ ลาออกทันที ไม่ใช่แจ้งแค่ความจำนงว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งเร็วขึ้น

ด้านเจ้าหน้าที่กองทัพเลบานอนแจ้งว่า หลังปฏิบัติการกู้ภัยอย่างไม่หยุดติดตามมา 3 วัน ขณะนี้หมดหวังที่จะพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมแล้ว หลังจากมีทีมกู้ภัยและทีมค้นหาจากนานาประเทศมาช่วย ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 158 ราย บาดเจ็บ 6,000 คน สูญหาย 21 คน และไร้ที่อยู่ 3 แสนคน

สถาบันธรณีฟิสิกส์ อเมริกัน - USGS ระบุว่าแรงสั่นสะเทือนของระเบิดในวันดังกล่าวที่ผู้คนรับรู้ได้ไกลถึงเกาะไซปรัส มีความรุนแรงเท่าเหตุแผ่นดินไหวขนาด 3.3 แม็กนิจูด ส่วนเจ้าหน้าที่เลบานอนที่ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากฝรั่งเศสเผยว่า แรงระเบิดพังทลายพื้นที่เป็นหลุมลึกถึง 43 เมตร

วันเดียวกัน นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เป็นประธานการประชุมกลุ่มพันธมิตร ที่มีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมด้วย เพื่อระดมความช่วยเหลือให้เลบานอน ก่อนที่ประชุมได้รับคำสัญญาจากคณะกรรมาธิการยุโรป ว่าจะให้เงินช่วยเลบานอน 35 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,000 ล้านบาท