ยูเอ็น แฉ หญิงเกาหลีเหนือ ถูกทรมาน-ข่มขืนขณะอยู่ในเรือนจำ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวรอบโลก ยูเอ็น แฉ หญิงเกาหลีเหนือ ถูกทรมาน-ข่มขืนขณะอยู่ในเรือนจำ
ยูเอ็น ระบุ "หญิงเกาหลีเหนือ" ที่อยู่ในค่ายกักกันถูกทรมาน-ข่มขืน ขอประเทศอื่นไม่ให้ส่งตัวผู้แปรพักตร์กับประเทศบ้านเกิด
วันนี้( 28 ก.ค.63) สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ออกรายงานฉบับหนึ่งว่า ด้วยสิทธิมนุษยชน โดยจั่วหัวเรื่องว่า I Still Feel The Pain ( ฉันยังรู้สึกเจ็บปวด ) และอ้างถึงผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือกว่า 100 คน ซึ่งถูกกักขังอยู่ในเรือนจำต่างๆพวกเธอต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดตั้งแต่ถูกทรมาน ถูกข่มขืนและถูกกระทำทางร่างกายอย่างรุนแรงจากตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ผู้หญิงเหล่านี้ถูกกักกันระหว่างปี 2552 - 2562 เนื่องจากพยายามหลบหนีออกนอกประเทศแต่ไม่ประสบความสำเร็จ หลังได้รับอิสรภาพพวกเธอก็สามารถแปรพักตร์เข้าเกาหลีใต้ได้สำเร็จ พวกเธอให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่สหประชาชาติในกรุงโซลว่า พวกเธอขาดแคลนอาหารและถูกทรมานต่างๆนานาในระหว่างถูกขังที่ศูนย์กักกันและเรือนจำ นอกจากนี้ยังถูกข่มขืนและถูกบังคับให้ทำแท้ง
แดเนียล คอลลินจ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานดังกล่าว บอกว่า รายงานนี้มีเป้าหมายเพื่อกดดันรัฐบาลเกาหลีเหนือให้แก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันเรียกร้องไปยังประเทศอื่นไม่ให้ส่งตัวชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์กับประเทศบ้านเกิด เพราะชาวเกาหลีเหนือเหล่านี้ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเสรีภาพและความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆต่อรายงานนี้ แต่รัฐบาลเกาหลีเหนือเคยวิจารณ์รายงานสิทธิมนุษยชนมีเป้าหมายล้มรัฐบาลนายคิม จอง อึ
วันนี้( 28 ก.ค.63) สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ออกรายงานฉบับหนึ่งว่า ด้วยสิทธิมนุษยชน โดยจั่วหัวเรื่องว่า I Still Feel The Pain ( ฉันยังรู้สึกเจ็บปวด ) และอ้างถึงผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือกว่า 100 คน ซึ่งถูกกักขังอยู่ในเรือนจำต่างๆพวกเธอต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดตั้งแต่ถูกทรมาน ถูกข่มขืนและถูกกระทำทางร่างกายอย่างรุนแรงจากตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ผู้หญิงเหล่านี้ถูกกักกันระหว่างปี 2552 - 2562 เนื่องจากพยายามหลบหนีออกนอกประเทศแต่ไม่ประสบความสำเร็จ หลังได้รับอิสรภาพพวกเธอก็สามารถแปรพักตร์เข้าเกาหลีใต้ได้สำเร็จ พวกเธอให้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่สหประชาชาติในกรุงโซลว่า พวกเธอขาดแคลนอาหารและถูกทรมานต่างๆนานาในระหว่างถูกขังที่ศูนย์กักกันและเรือนจำ นอกจากนี้ยังถูกข่มขืนและถูกบังคับให้ทำแท้ง
แดเนียล คอลลินจ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเขียนรายงานดังกล่าว บอกว่า รายงานนี้มีเป้าหมายเพื่อกดดันรัฐบาลเกาหลีเหนือให้แก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันเรียกร้องไปยังประเทศอื่นไม่ให้ส่งตัวชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์กับประเทศบ้านเกิด เพราะชาวเกาหลีเหนือเหล่านี้ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเสรีภาพและความเจริญก้าวหน้าในชีวิต
อย่างไรก็ตามเกาหลีเหนือไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆต่อรายงานนี้ แต่รัฐบาลเกาหลีเหนือเคยวิจารณ์รายงานสิทธิมนุษยชนมีเป้าหมายล้มรัฐบาลนายคิม จอง อึ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น