คาซัคสถานโต้ไวรัสปริศนาระบาดรุนแรงกว่าโควิด-19

คาซัคสถานปฏิเสธรายงานพบโรคติดเชื้อปอดบวมรุนแรง ระบุสื่อจีนรายงานข่าวปลอม

 วันนี้ ( 10 ก.ค. 63 )คาซัคสถานได้ออกมาปฏิเสธคำเตือนจากสถานเอกอัครราชทูตจีน ที่ได้ออกแถลงการณ์เตือนประชาชนชาวจีนเมื่อวานนี้ ถึงการระบาดของโรคปอดบวมรุนแรงที่ยังไม่ทราบสาเหตุ ที่กำลังแพร่ระบาดในคาซัคสถาน และระบุว่ารุนแรงกว่าโรคโควิด-19 นั้น เป็น "ข่าวปลอม"

โดยกระทรวงสาธารณสุขคาซัคสถาน ระบุในวันนี้ว่า ข้อมูลที่เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา หรือเชื้อไวรัสนั้นเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO และย้ำว่า ข้อมูลที่เกี่ยวกับโรคปอดบวมที่สื่อจีนรายงานนั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำคาซัคสถาน ออกแถลงการณ์ ระบุว่า

 กระทรวงสาธารณสุขคาซัคสถาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ กำลังเร่งสรวจสอบเชื้อไวรัสปริศนาที่ทำให้เกิดโรคปอดบวมรุนแรงที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศ และพบว่าในปีนี้มีชาวคาซัคเสียชีวิตแล้ว 1,772 คน โดยพบว่าเมื่อเดือนมิถุนายนเดือนเดียว มีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้มากถึง 628 คน และผู้เสียชีวิตบางคนเป็นชาวจีน พร้อมกันนี้ สถานทูตจีนยังกล่าวเตือนประชาชนให้ออกจากบ้านให้น้อยที่สุด และหลีกเลี่ยงที่ที่มีฝูงชนหนาแน่น สวมใส่หน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมืออยู่เสมอ

อีกทั้งสถานทูตจีนยังอ้างว่า ในกรุงอัสตานา เมืองหลวงของประเทศ (ชื่อใหม่คือ นูร์ ซุลตัน) พบผู้ป่วยมากกว่า 2 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว และมีผู้ที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลวันละกว่า 200 คน

หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากโรคปอดบวมปริศนานี้ คือ นายแพทย์ไกรัต ไบมูคัมเบโตฟ วัย 64 ปี ซึ่งเป็นแพทย์ชั้นแนวหน้าในการต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ

  ทั้งนี้ คาซัคสถาน กำลังต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19 โดยพบผู้ติดเชื้อมากกว่วา 53,000 คน และเสียชีวิตแล้ว 264 คน โดยประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ นูร์ ซุลตัน นาซาบาเยฟ ซึ่งตอนนี้นั่งตำแหน่งประธานคณะความมั่นคงแห่งชาติ ก็พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ด้วย

เครดิตแหล่งข้อมูล : tnnthailand