เกาหลีใต้ พร้อมตอบโต้ส่งรถถังทันสมัยประชิดชายแดนเกาหลีเหนือ

วันนี้( 18 มิ.ย.63) คิม ยู-กอน รองผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้ เตือนเกาหลีเหนือว่า เกาหลีใต้พร้อม "ตอบโต้อย่างเข้มแข็ง" หากจำเป็น ถ้าหากว่าเกาหลีเหนือมีการลงมือก่อน

ด้านกองทัพเกาหลีใต้เพิ่มกำลังทหาร พร้อมกับส่งยานเกราะและรถถังทันสมัยที่เกาหลีใต้ผลิตเองรวมทั้งอาวุธหนักต่างๆ ไปยังเขตปลอดทหารชายแดนเกาหลีใต้ที่ติดกับเกาหลีเหนือ เพิ่มเติมจากที่เกาหลีใต้ได้ส่งเครื่องบินรบเอฟ-35 ไปยังชายแดนที่ติดกับเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

โดยมีรายงานว่า รถถังของกองทัพเกาหลีใต้ที่กำลังส่งไปยังชายแดนติดกับเกาหลีเหนือครั้งนี้รวมถึงรถถังประสิทธิภาพสูงที่มีชื่อว่า "เคทู แบล็ค แพนเธอร์" (K2 Black Panther) ซึ่งเกาหลีใต้ผลิตเองเป็นรถถังล้ำสมัย ที่มีระบบป้องกันได้ทั้งอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมี และอาวุธชีวภาพ ที่เรียกว่าระบบป้องกันเอ็นบีซี (NBC) และยังสามารถต่อต้านได้ทั้งจรวดและขีปนาวุธทำลายรถถังด้วย

กองทัพเกาหลีใต้ไม่ได้เปิดเผยจำนวนรถถังเคทู แบล็ค แพนเธอร์ ที่ส่งไปยังชายแดน แต่ขณะนี้กองทัพเกาหลีใต้มีรถถังชนิดนี้ ประจำการอยู่ 100 คันและกำลังผลิตเพิ่มอีก 106 คันและวางแผนจะผลิตเพิ่มอีก 54 คัน

รถถังเคทู ผลิตโดยบริษัทฮุนได โรเทม บริษัทในเครือฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ เป็นรถถังที่มีประสิทธิภาพสูงเทียบได้กับรถถังที่ผลิตในชาติตะวันตกได้และเกาหลีใต้ยังส่งออกรถถังรุ่นนี้ ไปหลายประเทศแล้วอย่างเช่นโปแลนด์

ความเคลื่อนไหวทางทหารล่าสุดของเกาหลีใต้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) เกาหลีเหนือประกาศจะส่งทหารไปยังนิคมอุตสาหกรรมแกซองและแหล่งท่องเที่ยวเขาคัมกัง บริเวณชายแดนเกาหลีเหนือที่ติดกับเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ในเขตปลอดทหารในฝั่งของเกาหลีเหนือ และประกาศจะฟื้นการซ้อมรบในเขตปลอดทหารด้วย

สำหรับความตึงเครียดรอบล่าสุดระหว่าง 2 เกาหลี เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา เมื่อชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ในเกาหลีใต้ส่งลูกโป่งผูกติดใบปลิวโจมตีเกาหลีเหนือ ลอยข้ามพรมแดนเข้าไปในเกาหลีเหนือ ส่งผลให้เกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยการตัดการติดต่อทั้งหมดกับเกาหลีใต้และการตอบโต้ที่รุนแรงที่สุด คือการระเบิดสำนักประสานงานเกาหลีเหนือ-ใต้ในเมืองแกซองเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันเพิ่งมีการเปิดเผยว่า เกาหลีใต้ได้ลงทุนตกแต่งใหม่สำนักประสานงานเกาหลีเหนือ-ใต้ ไปถึง 8 ล้าน 6 แสนดอลลาร์ หรือเกือบ 270 ล้านบาท ก่อนหน้าที่จะถูกเกาหลีเหนือระเบิดทิ้งไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

เครดิตแหล่งข้อมูล : tnnthailand