ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน! รัฐแคลิฟอร์เนียเอาม็อบประท้วงผิวสีไม่อยู่

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ว่านายกาวิน นิวซอม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงนามในคำสั่งฉุกเฉินด้านความมั่นคงระดับรัฐ เมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตลอสแอนเจลิส รวมถึงนครลอสแอนเจลิส

เนื่องจากสถานการณ์ประท้วงเรื่องสีผิวทวีความรุนแรงและบานปลายเป็นการจลาจล ตลอดจนมีการปล้นสะดมร้านค้า โดยมีชนวนเหตุจากการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีอายุ 46 ปี ซึ่งถูกตำรวจผิวขาวที่เมืองมินนีแอโพลิส ในรัฐมินนิโซตา ใช้เข่ากดลงไปที่คอนานกว่า 8 นาที ระหว่างทำการจับกุมฟลอยด์ฐานพยายามใช้ธนบัตรปลอมซื้อสินค้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกัน นิวซอมยังอนุมัติคำร้องของตามคำร้องของนายอีริก การ์เซตติ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส ในการส่งเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประมาณ 500 ถึง 700 นาย ลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนภารกิจของตำรวจ ในการจับกุมผู้ก่อความไม่สงบ สลายการรวมตัวที่ผิดกฎหมาย และจับกุมผู้ก่อความรุนแรงที่รวมถึงการปล้นสะดม

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตภูมิอีกจำนวนหนึ่งเตรียมความพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือเทศบาลเมืองซานฟรานซิสโก ตามคำร้องของนายกเทศมนตรีคือนางลอนดอน บรีด ซึ่งประกาศเคอร์ฟิวในเวลากลางคืนเช่นเดียวกับที่นครลอสแอนเจลิส

แม้สถานการณ์วุ่นวายและรุนแรงในรัฐแคลิฟอร์เนียไม่ได้มีต้นเหตุจากเหตุการณ์ในพื้นที่ แต่ทำให้ทุกฝ่ายนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์จลาจลที่นครลอสแอนเจลิส เมื่อปี 2535 ซึ่งศาลพิพากษายกฟ้องตำรวจ 3 จาก 4 นาย ที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายนายร็อดนีย์ คิง นักเขียนและนักเคลื่อนไหวผิวสี โดยการจลาจลครั้งนั้นกินเวลานานถึง 6 วัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 63 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 2,000 คน และถูกจับกุมมากกว่า 12,000 คน

ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในอย่างน้อย 16 รัฐที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์ประท้วงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของฟลอยด์ ที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ว่าการแทบทุกรัฐที่มีการประท้วงขอความช่วยเหลือจากกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิในรัฐของตัวเอง