ชาติสมาชิก WHO ลงมติ ตั้งคกก.สอบอนามัยโลก ปมรับมือโควิดระบาด

วันนี้ ( 20 พ.ค. 63 ) นายทีโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือดับเบิลยูเอชโอ แถลงเมื่อวันอังคารว่า เขาจะยังคงเป็นผู้นำในการนำโลกต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ขู่ตัดเงินช่วยเหลือถาวรพร้อมทั้งถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกขององค์กรโลกแห่งนี้ โดยสมาชิกของดับเบิลยูเอชโอ ผ่านความเห็นชอบในการจัดตั้งคณะสอบสวนอิสระขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบการรับมือของดับเบิลยูเอชโอ ต่อการระบาดของไวรัสทั่วโลก

มติดังกล่าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป และอีกหลายชาติ รวมทั้งสหราชอาณาจักร, ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ผ่านความเห็นชอบโดยไม่มีเสียงคัดค้านจากที่ประชุมใหญ่ประจำปีของดับเบิลยูเอชโอ ที่มีสมาชิก 194 ประเทศ ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ผลักดันตั้งคณะสอบสวนวิธีการบริหารจัดการการระบาดของไวรัสและยังอนุญาตให้สอบสวนบทบาทขององค์การอนามัยโลกในเรื่องนี้ด้วย

นายกีเบรเยซุส กล่าวต่อที่ประชุมเสมือนจริงของดับเบิลยูเอชโอ ว่า ดับเบิลยูเอชโอต้องแสดงความรับผิดชอบมากกว่าใครๆ และจะยังคงเป็นผู้นำด้านยุทธศาสตร์ในการร่วมมือกับทั่วโลกหยุดยั้งการระบาดของไวรัสมรณะ

นอกจากนี้ นายกีเบรเยซุส ปกป้องบทบาทของดับเบิลยูเอชโอ หลังจากสหรัฐวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของดับเบิลยูเอชโอในการแก้ปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 และระงับเงินสนับสนุน โดยประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวหาดับเบิลยูเอชโอว่า เป็น "หุ่นเชิด" ของจีน และตัดเงินช่วยเหลือ ซึ่งสหรัฐเป็นประเทศผู้บริจาครายใหญ่สุด ทรัมป์ กล่าวหาจีนว่า พยายามปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัส ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่จีนปฏิเสธหัวชนฝา และทรัมป์บอกด้วยว่า องค์การอนามัยโลกล้มเหลวในการบังคับจีนให้รับผิดชอบเรื่องนี้

ทั้งนี้ ทรัมป์ต้องเผชิญหน้ากับการสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ และฝ่ายค้านก็มองว่า เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเขาที่มีต่อดับเบิลยูเอชโอ เป็นความพยายามกลบเกลื่อนความอ่อนด้อยในการรับมือการระบาดของไวรัสในสหรัฐ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงที่สุดในโลก โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ผู้เสียชีวิตทะลุ 90,000 คนไปแล้ว ภายใต้แรงกดดันนี้ ทรัมป์โจมตีดับเบิลยูเอชโอด้วยข้อกล่าวหาว่า ไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการต่อสู้กับการระบาดของไวรัสตั้งแต่เริ่มต้น