โควิดสิงคโปร์พุ่งทุบสถิติอีก สื่อนอกวิเคราะห์ก็ชมอยู่หยกๆ ทำไมแตก


โควิดสิงคโปร์พุ่งทุบสถิติอีก สื่อนอกวิเคราะห์ก็ชมอยู่หยกๆ ทำไมแตก

วันที่ 20 เม.ย. สเตรทไทมส์รายงานว่า ประเทศสิงคโปร์พบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 เพิ่มถึง 1,426 คน ภายในวันเดียว ถือเป็นสถิติใหม่ และแนวโน้มการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สร้างความตกตะลึงให้ประชาคมโลก หลังสิงคโปร์เป็นประเทศที่ได้รับความชื่นชมอย่างกว้างขวางต่อการควบคุมการระบาดช่วงก่อนหน้านี้

กระทรวงสาธารณสุข หรือเอ็มโอเอช ระบุว่า ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวถือว่าสูงที่สุดต่อวัน นับตั้งแต่เกิดการระบาดในเดือนม.ค. โดยเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์รายละเอียด ส่งผลให้ยอดรวมมีผู้ติดเชื้อ 8,014 คน เสียชีวิตแล้ว 11 ราย

ด้านซีเอ็นเอ็น สำนักข่าวในสหรัฐอเมริกา วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ของสิงคโปร์ที่พลิกผันจากการเป็นหนึ่งในชาติผู้นำของโลกในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 จนล่าสุดเพลี่ยงพล้ำกลายเป็นชาติที่มีพบจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า จุดเปลี่ยนแรกของสิงคโปร์มาจากการระบาดซ้ำรอบสองตั้งแต่ 17 มี.ค. ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทะยานจาก 266 เป็น 5,900 คนอย่างรวดเร็ว โดยสิงคโปร์นั้นมีพื้นที่เพียง 700 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่ามหานครนิวยอร์กของสหรัฐ และมีประชากรเพียง 5.7 ล้านคน การพบผู้ป่วยจำนวนดังกล่าวจึงถือว่ามีความสำคัญมาก



สื่อสหรัฐมองว่า ความผิดพลาดใหญ่หลวงที่สุดน่าจะมาจากการระบาดในบรรดาคนงานผู้ต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่แออัด และไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลสิงคโปร์เท่าที่ควร รวมทั้งความประมาทต่อความรวดเร็วในการแพร่ระบาดของเชื้อ เนื่องมาจากการไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ของสิงคโปร์

จุดหักเหใหญ่ต่อมาของสิงคโปร์เกิดขึ้นในเดือนเม.ย. หลังกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อดังกล่าวที่อยู่ระหว่างการตรวจทางห้องปฏิบัติการนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตที่ดำเนินตามปกติของชาวสิงคโปร์ และมาตรการเพียงเล็กน้อยใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป

เพราะหากให้ได้ผลต้องป้องกันการนำเข้าผู้ติดเชื้อจากนอกประเทศ และค้นหาผู้ติดเชื้อภายในประเทศได้อย่างรวดเร็ว แต่ล่าสุด การติดเชื้อระหว่างคนสู่คนนั้นรวดเร็วเกินกว่าที่เจ้าหน้าที่จะค้นหาและควบคุมได้ทัน เนื่องจากสิงคโปร์ไม่ได้ใช้มาตรการการชะลอการแพร่ระบาดอย่างล็อกดาวน์ และการลดระยะห่างทางสังคม

รายงานระบุว่า คนงานต่างด้าวส่วนใหญ่มาจากเอเชียใต้ มีความเป็นอยู่ที่แออัด ทั้งยังถูกรัฐบาลสิงคโปร์เมินเฉยต่อการการตรวจหาผู้ติดเชื้อในระลอกแรก คงยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเป็นการนำเข้าเชื้อมาของคนงาน หรือติดเชื้อในระดับท้องถิ่น

นายทอมมี โก๋ ทนายความและอดีตนักการทูตสิงคโปร์ เขียนระบายลงบนเฟซบุ๊กอย่างเดือดดาล ว่า สภาพความเป็นอยู่ที่แออัดของคนงานต่างด้าวเหล่านี้เป็นเหมือนกับ "ระเบิดเวลา" เพราะรัฐบาลปล่อยให้นายจ้างดูแลคุณภาพชีวิตผู้คนเหล่านี้ราวกับสิงคโปร์เป็นประเทศโลกที่สาม

นายโก๋ ระบุว่า การขนส่งแต่ละครั้งใช้รถท้องแบนไม่มีที่นั่ง แถมที่พักก็อัดแน่นไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ห้องเดียวให้อยู่ถึง 12 คน รัฐบาลควรใช้ปัญหานี้เป็นบทเรียน ว่าควรจะดูแลคุณภาพชีวิตคนงานต่างชาติในฐานะเพื่อน ให้สมกับที่สิงคโปร์เป็นประเทศโลกที่หนึ่ง

โควิดสิงคโปร์พุ่งทุบสถิติอีก สื่อนอกวิเคราะห์ก็ชมอยู่หยกๆ ทำไมแตก


ด้านรัฐบาลสิงคโปร์เพิ่งใช้มาตรการ "สับคัตเอาท์" (circuit breaker) ด้วยการเพิ่มมาตรการทางสังคม และยกระดับการลงโทษตามกฎหมาย เพื่อพยายามหยุดยั้งการระบาดแล้ว

อีกหนึ่งบทเรียนที่สำคัญจากสิงคโปร์และฮ่องกง คือ การผ่อนปรนมาตรการชะลอเชื้อที่เร็วเกินไป ทำให้เกิดการระบาดซ้ำสองและรุนแรงกว่าเดิมจนต้องกลับมาใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดอีกครั้ง ทว่า สิงคโปร์และฮ่องกงนั้นอาจมีโอกาสที่จะควบคุมกลับมาได้สูง เพราะมีขนาดเล็ก และประชากรที่น้อยสามารถดูแลได้ทั่วถึงและเข้มข้น ขณะที่ประเทศอื่นๆ นั้นจะมีโอกาสน้อยกว่า

จึงสรุปได้ว่า ชาติต่างๆ ไม่ควรลดระดับมาตรการชะลอการระบาดลงจนกว่าจะมีกระบวนการการตรวจและติดตามที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ รวมทั้งมาตรการสกัดกั้นไม่ให้มีการนำเข้าผู้ติดเชื้อมาจากภายนอกอีก การที่มีผู้ติดเชื้อน้อยลงในท้องถิ่นนั้นยังเร็วเกินไปที่จะผ่อนคลาย

โควิดสิงคโปร์พุ่งทุบสถิติอีก สื่อนอกวิเคราะห์ก็ชมอยู่หยกๆ ทำไมแตก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


Love Attack  เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน

Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้

Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์