พญ.อังกฤษ บอกวิธีเอาชนะโควิด-19 หลังจากติดเชื้อ!?!

เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 63 ทางด้านของ เว็บไซต์เดลี่เมล และเดอะซัน สื่อชื่อดังในระดับโลกได้ทำการรายงานเรื่องของ "แพทย์หญิง แคลร์ เกราดา" ภรรยาของ เซอร์ ไซมอน เวสซีลีย์ อดีตประธาน Royal College of GPs

โดยเธอป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ หรือโควิด-19 เมื่อประมาณช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ และในขณะนี้เธอได้มีอาการหายดีเป็นปกติแล้ว

โดย พญ.เกราดา ได้เล่าว่าในขณะที่เธอป่วยติดเชื้อโควิด-19 อาการต่างๆในขณะป่วยต่างกับการเป็นไข้หวัดใหญ่ ซึ่งตอนแรกเธอคิดว่าเป็นอาการเจ็บป่วยจากการเดินทางข้ามเขตเวลา หรือที่เรียกว่าเจ็ตแลค เพราะ เธอเพิ่งบินไปกลับที่นิวยอร์ก-ลอนดอน ก่อนป่วยประมาณ 3 วัน

แต่แล้วอยู่ๆเธอก็รู้สึกเหนื่อย บวกกับเริ่มมีไอแห้งๆ และมีอาการเจ็บคออย่างรุนแรง จากนั้นก็มีอาการไข้ขึ้นสูง ปวดตามข้อ ปวดศีรษะรุนแรง เจ็บปวดหน้าอกจากการไอ รวมถึงหมดแรง หมดแรงในที่นี้คือไม่มีแรงพอจะเก็บเงินที่ตกอยู่ตรงพื้นได้

ซึ่ง พญ.เกราดา ได้เล่าต่อว่าเธอต้องนอนอยู่บนเตียงประมาณ 6 วัน จะลุกก็ต่อเมื่อเข้าห้องน้ำ ในใจเริ่มฉุกคิดเสมอว่านี่อาจจะเป็นการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่น่าแปลกใจทำไมถึงไม่รู้สึกกลัว ทั้งที่ก่อนเป็นกลัวมากกว่านี้ และเธอคิดเสมอว่าฉันแข็งแรงเพราะฉันเป็นคนเดินเยอะ จนกระทั่งไปตรวจอาการที่โรงพยาบาลท้องถิ่น

ผลปรากฎว่า เธอติดเชื้อโควิด-19 โดย พญ.เกราดา ได้กล่าวว่า

"ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมทุกคนถึงกลัวโควิด-19 แต่ทุกคนจะรอดเหมือนฉัน"

พร้อมกับบอกวิธีที่เธอใช้ในการต่อสู้กับโควิด-19 จนหายดี ก็คือ กินยาพาราเซตามอลทุก 8 ชั่วโมง รับประทานซุปไก่ และน้ำมะนาว

โดยไข้ของเธอค่อยๆลดลงตามลำดับ อาการไอเริ่มหายไป เริ่มรู้สึกดีขึ้น เมื่อร่างกายเริ่มใกล้ปกติเธอหยุดกินยาพาราเซตามอล และเริ่มกลับมารับประทานอาหารที่เป็นปกติได้อีกครั้ง

โดยทางด้าน พญ.เกราดา ยังได้กล่าวอีกด้วยว่า ตอนที่เธอป่วยโควิด-19 เธอจะต้องแยกห้องนอน ไม่ใช้ห้องน้ำร่วมกัน และแยกถ้วยชาม เมื่อทานเสร็จแล้วต้องล้างจานทันที ซึ่งในขณะนี้ก็ไม่มีใครในบ้านที่ติดโควิด-19 จากเธอ

และยังได้กล่าวจบด้วยว่า ที่เธอออกมาเล่าเรื่องนี้ เพราะต้องการให้คนลดความตระหนกและโควิด-19 ไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นต้องกลัวมากเกินไป